ผ้าตัดเย็บม่านโปร่ง สวย

ผ้าม่านโปร่ง เคล็ดลับที่เพิ่มความนุ่มนวลให้กับหน้าตาบ้าน

ผ้าม่านโปร่ง เคล็ดลับที่เพิ่มความนุ่มนวลให้กับหน้าตาบ้าน
เคล็ดลับของการเพิ่มความนุ่มนวล “Graceful & Delicate” ให้กับหน้าตาบ้าน ก็คือการติดผ้าม่านโปร่งนั้นเอง การติดตั้งผ้าม่านโปร่งสามารถช่วยให้บ้านเราดูสวยงามนุ่มนวลยิ่งขึ้นอย่างไรบ้าง?

ผ้าม่านโปร่ง ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว: ผ้าม่านโปร่งเป็นที่นิยมในประเทศบ้านเราเมืองไทยเป็นประเทศร้อนและมีแสงแดดที่ร้อนแรง ซึ่งถ้าใช้ผ้าม่านบางๆ ก็จะกันแสงได้ไม่มืดพอ แต่โดยทั่วไปแล้ว การติดผ้าม่านโปร่งเป็นเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวเวลาเปิดปิดผ้าม่าน การได้มองออกไปนอกบ้านและชมวิวเป็นสิ่งที่สามารถนำความสุขและความสดชื่นให้กับเราได้ บางครั้งเราอยากจะเปิดผ้าม่านเพื่อชมวิวนอกบ้าน การมีผ้าม่านโปร่งทำให้เรามองออกหน้าต่างและชมวิวได้โดยที่ผู้อื่นที่อยู่ข้างนอกไม่สามารถมองเข้ามาในบ้านได้

ถ้าบ้านเราเปิดผ้าม่านแล้วแสงแดงจ้าและร้อนเกินไป หรือปิดผ้าม่านแล้วบ้านจะมืดไป ผ้าม่านโปร่งเป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ได้ที่สุด: บางทีเราอาจติดตั้งผ้าม่านแบล็คเอาท์ในบ้านและทำให้ห้องในบ้านดูมืดตลอดเวลา ผ้าม่านโปร่งสามารถช่วยปรับแสงในห้อง ทำให้บ้านดูสว่างสดใสได้โดยที่ไม่ต้องเปลืองไฟ เพราะไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน เราสามารถใช้ผ้าม่านโปร่งเป็นชั้นกรองแสงแดดที่เข้ามาให้บ้านให้บ้านดูสว่างปลอดโปร่ง ถ้าไม่มีผ้าม่านโปร่ง การเปิดผ้าม่านจะไม่สามารถกรองแสงแดดได้เลย และทำให้บ้านอาจสว่างจ้าเกินไปในเวลากลางวัน แสงแดดที่เข้ามาในบ้านแรงๆ จะทำให้การดำเนินใช้ชีวิตอยู่ในบ้านไม่ค่อยสะดวกสบาย อย่างเช่นเวลาอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ เล่นคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ถ้ามีแสงแดดจ้าๆ เข้ามาทางหน้าต่างก็จะทำให้ห้องในบ้านร้อนและแสงแดด (Sun Glare) ก็เข้าตาได้ ซึ่งทำให้การทำกิจกรรมภายในบ้านต่างๆ นี้ ไม่ค่อยสะดวกสบาย

ผ้าม่านโปร่ง นานาชนิด: ผ้าโปร่งสำหรับทำผ้าม่านมีหลายชนิด มีผ้าโปร่งสีพื้น ผ้าโปร่งลายปัก ผ้าโปร่งลายฉลุ ผ้าโปร่งลูกไม้ ผ้าโปร่งลายแฟนซีต่างๆ เป็นต้น เราสามารถตัดเย็บผ้าม่านโปร่งเป็นรูปแบบใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านโปร่งตาไก่ ผ้าม่านโปร่งจีบ ผ้าม่านโปร่งพับ ผ้าม่านโปร่งหลุยส์ ผ้าม่านโปร่งคอกระเช้า เป็นต้น และไม่จำเป็นต้องต้ดผ้าม่านโปร่งให้เหมือนผ้าม่านทึบ อย่างเช่นเราสามารถใช้ผ้าม่านโปร่งจีบในชุดเดียวกันกับผ้าม่านตาไก่ หรือใช้ผ้าม่านโปร่งจีบพร้อมกับผ้าม่านหลุยส์ เป็นต้น

ผ้าม่านโปร่งในคอนเซ็ปต์ Minimalist: ผ้าโปร่งมีทั้งแบบสีพื้นและแบบมีลวดลาย ส่วนมากจะนิยมใช้เป็นสีขาวหรือสีออฟ-ไวท์ (Off-white) ผ้าม่านโปร่งแบบมีลวดลายอาจมีลายในตัวเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นลายทาง ลายตา เป็นต้น ผ้าโปร่งสีพื้นมักจะใช้กับบ้านที่ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์โมเดิร์นและมินิมอลลิสต์ (Minimalist) ผ้าโปร่งชนิดนี้จะมีใช้เพื่อหน้าที่เดียวก็คือเพื่อป้องกันสายตาผู้อื่นที่อยู่ข้างนอกไม่ให้มองเข้า และไม่ได้ใช้เพื่อให้บ้านดูมีสีสันมีความหรูหรามากขึ้น แม้ผ้าม่านโปร่งสีพื้นในคอนเซ็ปต์ของ Minimalist อาจไม่ได้ใช้เพื่อความสวยงาม แต่การเพิ่มมิติให้กับการตกแต่งหน้าต่างก็ยังช่วยให้หน้าตาของบ้านดูนุ่มนวลมากยิ่งขึ้นและสร้างบรรยากาศ Relax สบายๆ ให้บ้านดูน่าอยู่มากขึ้น

ผ้าม่านโปร่งลายลูกไม้สำหรับบ้านที่ตกแต่งสไตล์ Vintage: ถ้าจะตกแต่งบ้านให้ดูมีสีสันร่าเริง การทำผ้าม่านสองชั้นด้วยการเสริมผ้าโปร่งจะช่วยได้อย่างมาก โดยเฉพาะการเลือกใช้ผ้าโปร่งลายปัก ผ้าโปร่งลายฉลุ หรือผ้าโปร่งลายลูกไม้ ซึ่งผ้าโปร่งเหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้กับบ้านที่ตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ (Vintage) และสไตล์คันทรี (Country) ผ้าโปร่งลายปักและผ้าโปร่งลายฉลุมักจะใช้ตกแต่งหน้าต่างประตูบ้านให้ดูมีความหรูหรายิ่งขึ้น ให้บ้านดูสวยเด่น หวานอ่อนโยน และเรียบหรูอย่างมีมิติ ผ้าโปร่งลูกไม้ก็จะทำให้บ้านดูสดชื่น มีบรรยากาศหวาน น่ารัก และเหมาะกับผู้ที่ชอบความสดชื่นของลายดอกไม้และเป็นคนรักธรรมชาติ การตกแต่งบ้านด้วยผ้าม่านโปร่งลูกไม้จะเพื่มบรรยากาศให้กับบ้านให้ดูมีชีวิตชีวา น่ารัก และโรแมนติก คนเราส่วนใหญ่มักจะชอบมอบดอกไม้ให้กับคนที่เรารัก เพราะดอกไม้กับความรักเป็นสิ่งที่ควบคู่กันตามธรรมชาติ

ผ้าม่านโปร่ง สามารถใช้ได้กับบ้านทุกในคอนเซ็ปต์และทุกสไตล์: ในภาพรวม ไม่ว่าจะออกแบบบ้านในสไตล์ไหนคอนเซ็ปต์ใดก็สามารถใช้ผ้าโปร่งมาประดับให้บ้านดูสดชื่นน่าอยู่ขึ้นได้ เราสามารถเลือกผ้าม่านโปร่งสีพื้น ซึ่งจะใช้กับบ้านที่ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์โมเดร์นและสไตล์มินิมอลลิสต์ และจะทำให้หน้าตาบ้านดูนุ่มนวล อ่อนโยน และเรียบหรูมากขึ้น ส่วนผ้าโปร่งลายปัก ลายฉลุ และลายลูกไม้ต่างๆ จะเหมาะใช้กับบ้านที่ออกแบบด้วยสไตล์วินเทจและคันทรี ผ้าโปร่งในกลุ่มนี้จะทำให้บ้านดูหวาน น่ารัก และมีบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา

ผ้าม่านโปร่ง ผลประโยชน์มากมาย: การติดตั้งผ้าม่านโปร่งในบ้านสร้างผลประโยชน์มากมาย ผ้าม่านโปร่งเป็นการเพิ่มมิติในการตกแต่งบ้านและทำให้บรรยากาศบ้านดูสวยงามอ่อนโยนยิ่งขึ้น ผ้าโปร่งสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับเราเวลาอยู่บ้าน และยังช่วยในการปรับสมดุลแสงในบ้านให้บ้านดูสว่างสดใสและไม่จ้าหรือมืดเกินไป โดยที่ไม่ต้องเปลืองค่าไฟอีกด้วย

ที่ร้านผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์ มีผ้าโปร่งสำหรับตัดผ้าม่านให้คุณเลือกมากมายหลายชนิด ในราคาถูก เรามีจำหน่ายผ้าโปร่งที่เข้าได้กับการตกแต่งบ้านทุกรูปแบบทุกสไตล์ ติดต่อสอบถามราคาและชนิดของผ้าโปร่งเราได้ที่ 02 223 4828 บริษัทผ้าม่านพาหุรัด แฟบริค พลัส

ร้านผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์ ขายส่ง/ปลีกผ้าทำผ้าม่านคุณภาพเกรด A ราคาโรงงาน ร้านอยู่ติดถนนพาหุรัด มีโชว์รูมให้ลูกค้าได้สัมผัสผ้าเป็นม้วนๆ มีแบบอย่างผ้าม่านให้ชมมากมาย เราเป็นผู้นำเข้าเอง ขายส่งทั่วประเทศ มีบริการตัดเย็บติดตั้งผ้าม่านให้แบบบริการครบวงจร ราคาถูก ผ้าม่านสวย คุณภาพดี

Read More »
ร้านขายผ้าทำม่านและมีบริการตัดเย็บผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์

การเพิ่มมิติของหน้าต่างด้วยผ้าม่านทำอย่างไร

การเพิ่มมิติของหน้าต่างให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นด้วยการใช้ผ้าม่านต้องทำอย่างไร?
การเพิ่มมิติด้วยผ้าม่าน Dimensional Design: การออกแบบและตกแต่งหน้าต่างด้วยผ้าม่าน (Window Dressing) เป็นศิลปะชนิดหนึ่ง และศิลปะที่ดีควรจะเป็นเอกลักษ์และมีหลายมิติ ดังนั้นการเพิ่มมิติให้กับหน้าต่างบ้านนั้นเป็นการที่ทำให้บ้านดูเรียบหรูยิ่งขึ้น ดีไซน์ที่เพิ่มมิติ (Dimensional Design) ที่ดีควรคำนึงถึงจุดประสงค์และความสวยงามของมิตินั้น อย่างเช่นการเลือกใช้ผ้าม่านโปร่งเสริมข้างหลังผ้าม่านในห้องนอนเป็นการเพิ่มมิติความลึก (Depth) และเป็นการเพิ่มจำนวนชั้น (Layering) ผ้าม่าน การแต่ง Window Dressing ด้วยผ้าม่านโปร่งจะมอบความละเอียดอ่อน ความนุ่มนวล (Soft Touch) ให้กับบรรยากาศห้อง ถ้าเราเน้นให้ผ้าม่านดูสวยหรู เราอาจเลือกเพิ่มมิติผ้าม่านด้วยการตัดเย็บผ้าม่านหลุยส์ ซึ่งเป็นแบบผ้าม่านที่มีสองชั้นเหมือนผ้าม่านโปร่งแต่เน้นความหรูหรามากกว่าความนุ่มนวล ยิ่งถ้าทำผ้าม่านโปร่งเสริมผ้าม่านหลุยส์และทำเป็นผ้าม่านสามชั้น เราก็จะได้ความหรูหราและความนุ่มนวลพร้อมกัน และทำให้รูปห้องดูสวยหรูอลังการอย่างยิ่ง

เพิ่มจำนวนชั้นผ้าม่าน: เหมือนกับการเพิ่มมิติของผ้าม่านด้วยการเสริมผ้าม่านโปร่งและผ้าม่านหลุยส์ การเพิ่มมิติในห้องนอนสามารถทำได้ด้วยการเพิ่มจำนวนชั้นในการตกแต่งเตียง (Bed Dressing) ซึ่งก็คือการซื้อผ้าคลุมเตียงสวยๆ มาคลุมผ้าปูที่นอนอีกชั้นนั่นเอง การซื้อผ้าคลุมเตียงเป็นการเสริมชั้นตกแต่ง “Dimension” ให้กับเตียง เป็นต้น การเพิ่มมิติและ “ชั้น” ในศิลปะมีมากกว่าแค่การตกแต่งบ้าน การเสริมมิติจะทำให้ผลงานศิลปะชิ้นนั้นดูดีและมีสีสรรค์มากขึ้น อย่างเช่นการแต่งเรื่องเล่าดีๆควรที่จะมีความซับซ้อนเสริมเข้ามาอีกชั้นเพื่อให้เนื้อเรื่องสนุกและน่าติดตาม การแต่งเพลงที่ดีก็ควรที่จะมีทำนองเพลงมากกว่าแค่ทำนองเดียวเพื่อให้เสียงเพลงเพราะและน่าฟัง เป็นต้น

เพิ่มมิติในการตกแต่งตรงกันข้ามกับสไตล์ Minimalist: สไตล์การออกแบบงานศิลปะที่เพิ่มมิตินั้นจะตรงกันข้ามกับสไตล์ Minimalist (แบบเรียบง่าย และใช้สิ่งของแสดงงานน้อยชิ้น) เพราะการตกแต่งแบบเพิ่มมิติจะเน้นความเลิศหรูมากกว่าความเรียบง่าย เน้นสร้างสรรค์ในการออกแต่งห้อง แต่ถ้าเราอยากได้สไตล์ Minimalist คือการตกแต่งบ้านด้วยผ้าม่านที่ใช้ผ้าจำนวนน้อยอย่างเช่นม่านพับหรือการใช้ผ้าม่านแค่ชั้นเดียว ไม่เสริมม่านโปร่งหรือม่านหลุยส์ 

สไตล์ Minimalist คืออะไร?: สไตล์ Minimalist จะเน้นการตกแต่งด้วยจำนวนเฟอร์นิเจอร์ที่น้อยที่สุด การตกแต่งในสไตล์ Minimalist จะใช้จำนวนเฟอร์นิเจอร์ในห้องน้อยและเน้นความปลอดโปร่งและให้มีพื้นที่ทางเดินในบ้านกว้างๆ เป็นสไตล์ที่เน้นการใช้งานของเฟอ์นิเจอร์มากกว่าความสวยงาม ถ้าเราไม่ได้สนใจว่าต้องให้ห้องดูหวานอ่อนโยนหรือสวยหรู แต่ต้องการความเรียบง่ายแทน การเลือกตกแต่งบ้านด้วยสไตล์ Minimalist จะเหมาะกับคอนเซ็ปต์นี้ ถ้าปกติเราไม่ใช้ผ้าม่านโปร่ง ก็ไม่ต้องซื้อผ้าม่านโปร่ง ถ้าเราไม่ค่อยใช้โต๊ะดืมกาแฟ ก็ไม่ต้องซื้อโต๊ะกาแฟ ถ้าปกติไม่ใช้ผ้าคลุมเตียง ก็ไม่ต้องซื้อผ้ามาคลุมเตียง เป็นต้น สไตล์ดีไซน์แบบ Minimalist จะเน้นที่ฟังก์ชั่นอย่างเดียว ไม่เน้นความหรูหราและผู้ที่ชอบสไตล์นี้มักจะคิดว่าสิ่งที่ไม่ได้ใช้ในชิวิตประจำวันคือสิ่งของฟุ่มเฟือย

สไตล์การออกแบบที่ Unique ไม่เหมือนใคร: ถ้าอยากนำสไตล์ศิลปะที่มีความงดงามและเป็นเอกลักษ์ของตัวเองมาตกแต่งบ้าน เราต้องมีความสร้างสรรค์และความมั่นใจใน Artistic Sense ของตัวเอง การออกแบบที่ทำให้ผู้อื่นที่แวะมาบ้านต้องชื่นชมและทึ่งไปกับสไตล์การตกแต่งที่สวยพิเศษ เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์และไหวพริบศิลปะของตนเองทุกคน แต่อยู่ที่ว่าเราได้ฝึกฝนใช้มันมากน้อยแค่ไหน ถ้าเราไม่ค่อยได้ฝึกเลยก็จะทำให้เราขาดความมั่นใจและไม่กล้าตัดสินใจเองว่าจะออกแบบห้องและบ้านของเราอย่างไร แต่ถ้าทำได้สำเร็จ ก็จะทำให้เรารู้สึกความภาคภูมิใจในตัวเองเพราะเราไม่ได้ลอกเลียนแบบผู้อื่น ในโลกของ Idealism เราควรที่จะตกแต่งบ้านในลักษณะและสไตล์ที่สะท้อนถึงความเป็นตัวเรา

ไม่ยึดติดกับสไตล์การตกแต่งใด: อย่างหนึ่งที่ต้องระมัดระวังคือการยึดติดก้บสไตล์แบบใดแบบหนึ่งมากเกินไป เพราะบางสไตล์อาจทำให้เราต้องใช้งบประมาณมากกว่าที่เรากำหนดไว้ และทำให้ตกแต่งบ้านตามสไตล์นั้นไม่ไหว เราไม่ควรถูกสไตล์ใดมาบังคับให้ต้องใช้สิ่งที่ไม่ทำให้เราสบายใจ อย่างเช่นถ้าเราเลือกสไตล์การตกแต่งแบบ 1950 Mid-century ซึ่งจะเน้นออกแบบด้วยสิ่งของประดิษฐ์จากนักออกแบบชื่อดัง บางทีสิ่งที่สร้างโดยดีไซเนอร์ชื่อดังอาจจะแพงกว่างบที่ตั้งไว้ แต่แล้วเราบังคับตัวเองให้ซื้อมันเพื่อยึดติดกับสไตล์ Mid-century ที่เราได้เลือกไว้ ถ้าเราอยากได้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจากดีไซน์เนอร์ผู้นั้นก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเราไม่ได้ชอบบางสิ่งที่เขาออกแบบมา เราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อสิ่งนั้นก็ได้ เรามีสิทธิเลือกสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสไตล์การตกแต่งบ้านที่เราเลือก สมมุติว่าเราได้ตัดสินใจแล้วว่าอยากออกแบบบ้านด้วยสไตล์ Minimalist แต่เราอยากใช้ผ้าม่านโปร่งมาเสริมความนุ่มนวลให้รูปหน้าต่างห้อง เราก็สามารถเลือกใช้ผ้าม่านโปร่งมาเสริมอีกชั้นของผ้าม่านได้ ซึ่งอาจไม่ทำตาม Minimalist แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะความสุขเราต้องมาเหนือสไตล์

การยึดติดกับสไตล์ใดสไตล์หนึ่งไม่ใช้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การตกแต่งบ้านที่ดูสบายตาและน่าอยู่สำหรับเราจะต้องสำคัญกว่า เราควรที่จะเลือกตกแต่งบ้านที่มอบความสุขให้กับตัวเรามากที่สุด

Read More »

ผ้าชนิดไหนสามารถนำมาตัดเย็บผ้าม่านได้?

ผ้าชนิดไหนสามารถนำมาตัดเย็บผ้าม่านได้?
1) ผ้าฝ้าย (Cotton): ผ้าฝ้ายเหมาะสำหรับตัดเย็บผ้าม่านเพราะมีความหนา ทิ้งตัวดีมีน้ำหนัก สีและลายพิมพ์บนพื้นผิวผ้าคมชัด สวยเด่น และสามารถนำมาซักทำความสะอาดง่าย ข้อเสียของผ้าฝ้ายคือซักผ้าม่านแล้วจะหด ผ้าจับฝุ่นง่าย ต้องทำความสะอาดบ่อย
2) ผ้าใยสังเคราะห์ (Polyester): ผ้าใยสังเคราะห์ เป็นผ้าที่เหมาะใช้ทำผ้าม่านเพราะเป็นผ้าที่ไม่จับฝุ่น ไม่ยับง่าย และมีน้ำหนักทิ้งตัวดี ผ้าใยสังเคราะไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อย ใช้ได้กับผ้าม่านลายพิมพ์และทอลายในตัว
3) ผ้าซาติน (Satin): ผ้าม่านซาติน เป็นชนิดผ้าที่มีความเงาในตัว ทำให้แสงสะท้อนแล้วดูเด่นสวย คล้ายๆ กับผ้าไหม เป็นผ้าที่ไม่จับฝุ่นบ่อย
4) ผ้าแจ๊คการ์ด (Jacquard):เป็นชนิดผ้าทอลายในตัว เป็นผ้าที่เหมาะมากสำหรับทำผ้าม่าน เพราะลายในตัวดูสวยชัด และเวลาซัก สีจะไม่ตก ลายผ้าทอลึกลงไปในผ้า ทำให้ลายผ้าทนทาน ไม่จางลงหลังจากการใช้เป็นระยะยาว
5) ผ้ากำมะหยี่ (Velvet): เนื้อผ้ากำมาหยี่เหมาะสมกับการตัดเย็บทำผ้าม่านเพราะเป็นชนิดผ้าที่มีเนื้อหนาแน่นและหนัก ผ้าเนื้อนี้เพิ่มเสน่ให้กับหน้าตาของห้องได้อย่างดีเพราะเป็นเนื้อผ้าที่เงาเป็นประกาย คนต่างชาติชอบพูดว่าผ้าเนื้อกำมะหยี่ หรือ ผ้าชนิด Velvet เป็นผ้าที่เหมาะกับทำผ้าม่านธีมพระราชา (Royalty) ผ้ารุ่นนี้จะมีเนื้อที่ออกเงา ดูเด่นสวย ผ้ากำมะหยี่ช่วยบังแสงแดดไม่ให้เข้ามาในบ้านได้ดี โดยเฉพาะผ้ากำมะหยี่สีเข้มจะกันแสงแดดได้ดีกว่าผ้าสีอ่อน แต่ผ้าม่านสีอ่อนจะทำให้พื้นที่ห้องดูปลอดโปร่ง โล่งสบายตากว่า ข้อเสียของผ้ากำมะหยี่คือต้องปัดฝุ่นบ่อยเพราะมีผิวเนื้อผ้าที่จับฝุ่นง่ายกว่าผ้าทำม่านชนิดอื่น
ร้านผ้าม่าน พาหุรัด สำเพ็ง ตัดเย็บผ้าม่าน

ร้านผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์ (ถนนพาหุรัด) ขายปลีกและส่ง ผ้าสำหรับตัดเย็บผ้าม่าน คุณภาพมาตรฐานสากล ราคาประหยัด เรานำเข้าเอง มีโชว์รูมให้ลูกค้าได้ชมผ้าแบบจุใจ ในร้านมีผ้าสำหรับทำผ้าม่านเป็นม้วนๆ มีแบบอย่างผ้าม่านให้ชมมากมาย เรามีบริการตัดเย็บและติดตั้งครบวงจร 

Read More »