การเพิ่มมิติของหน้าต่างด้วยผ้าม่านทำอย่างไร
การเพิ่มมิติของหน้าต่างให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นด้วยการใช้ผ้าม่านต้องทำอย่างไร?
การเพิ่มมิติด้วยผ้าม่าน Dimensional Design: การออกแบบและตกแต่งหน้าต่างด้วยผ้าม่าน (Window Dressing) เป็นศิลปะชนิดหนึ่ง และศิลปะที่ดีควรจะเป็นเอกลักษ์และมีหลายมิติ ดังนั้นการเพิ่มมิติให้กับหน้าต่างบ้านนั้นเป็นการที่ทำให้บ้านดูเรียบหรูยิ่งขึ้น ดีไซน์ที่เพิ่มมิติ (Dimensional Design) ที่ดีควรคำนึงถึงจุดประสงค์และความสวยงามของมิตินั้น อย่างเช่นการเลือกใช้ผ้าม่านโปร่งเสริมข้างหลังผ้าม่านในห้องนอนเป็นการเพิ่มมิติความลึก (Depth) และเป็นการเพิ่มจำนวนชั้น (Layering) ผ้าม่าน การแต่ง Window Dressing ด้วยผ้าม่านโปร่งจะมอบความละเอียดอ่อน ความนุ่มนวล (Soft Touch) ให้กับบรรยากาศห้อง ถ้าเราเน้นให้ผ้าม่านดูสวยหรู เราอาจเลือกเพิ่มมิติผ้าม่านด้วยการตัดเย็บผ้าม่านหลุยส์ ซึ่งเป็นแบบผ้าม่านที่มีสองชั้นเหมือนผ้าม่านโปร่งแต่เน้นความหรูหรามากกว่าความนุ่มนวล ยิ่งถ้าทำผ้าม่านโปร่งเสริมผ้าม่านหลุยส์และทำเป็นผ้าม่านสามชั้น เราก็จะได้ความหรูหราและความนุ่มนวลพร้อมกัน และทำให้รูปห้องดูสวยหรูอลังการอย่างยิ่ง
เพิ่มจำนวนชั้นผ้าม่าน: เหมือนกับการเพิ่มมิติของผ้าม่านด้วยการเสริมผ้าม่านโปร่งและผ้าม่านหลุยส์ การเพิ่มมิติในห้องนอนสามารถทำได้ด้วยการเพิ่มจำนวนชั้นในการตกแต่งเตียง (Bed Dressing) ซึ่งก็คือการซื้อผ้าคลุมเตียงสวยๆ มาคลุมผ้าปูที่นอนอีกชั้นนั่นเอง การซื้อผ้าคลุมเตียงเป็นการเสริมชั้นตกแต่ง “Dimension” ให้กับเตียง เป็นต้น การเพิ่มมิติและ “ชั้น” ในศิลปะมีมากกว่าแค่การตกแต่งบ้าน การเสริมมิติจะทำให้ผลงานศิลปะชิ้นนั้นดูดีและมีสีสรรค์มากขึ้น อย่างเช่นการแต่งเรื่องเล่าดีๆควรที่จะมีความซับซ้อนเสริมเข้ามาอีกชั้นเพื่อให้เนื้อเรื่องสนุกและน่าติดตาม การแต่งเพลงที่ดีก็ควรที่จะมีทำนองเพลงมากกว่าแค่ทำนองเดียวเพื่อให้เสียงเพลงเพราะและน่าฟัง เป็นต้น
เพิ่มมิติในการตกแต่งตรงกันข้ามกับสไตล์ Minimalist: สไตล์การออกแบบงานศิลปะที่เพิ่มมิตินั้นจะตรงกันข้ามกับสไตล์ Minimalist (แบบเรียบง่าย และใช้สิ่งของแสดงงานน้อยชิ้น) เพราะการตกแต่งแบบเพิ่มมิติจะเน้นความเลิศหรูมากกว่าความเรียบง่าย เน้นสร้างสรรค์ในการออกแต่งห้อง แต่ถ้าเราอยากได้สไตล์ Minimalist คือการตกแต่งบ้านด้วยผ้าม่านที่ใช้ผ้าจำนวนน้อยอย่างเช่นม่านพับหรือการใช้ผ้าม่านแค่ชั้นเดียว ไม่เสริมม่านโปร่งหรือม่านหลุยส์
สไตล์ Minimalist คืออะไร?: สไตล์ Minimalist จะเน้นการตกแต่งด้วยจำนวนเฟอร์นิเจอร์ที่น้อยที่สุด การตกแต่งในสไตล์ Minimalist จะใช้จำนวนเฟอร์นิเจอร์ในห้องน้อยและเน้นความปลอดโปร่งและให้มีพื้นที่ทางเดินในบ้านกว้างๆ เป็นสไตล์ที่เน้นการใช้งานของเฟอ์นิเจอร์มากกว่าความสวยงาม ถ้าเราไม่ได้สนใจว่าต้องให้ห้องดูหวานอ่อนโยนหรือสวยหรู แต่ต้องการความเรียบง่ายแทน การเลือกตกแต่งบ้านด้วยสไตล์ Minimalist จะเหมาะกับคอนเซ็ปต์นี้ ถ้าปกติเราไม่ใช้ผ้าม่านโปร่ง ก็ไม่ต้องซื้อผ้าม่านโปร่ง ถ้าเราไม่ค่อยใช้โต๊ะดืมกาแฟ ก็ไม่ต้องซื้อโต๊ะกาแฟ ถ้าปกติไม่ใช้ผ้าคลุมเตียง ก็ไม่ต้องซื้อผ้ามาคลุมเตียง เป็นต้น สไตล์ดีไซน์แบบ Minimalist จะเน้นที่ฟังก์ชั่นอย่างเดียว ไม่เน้นความหรูหราและผู้ที่ชอบสไตล์นี้มักจะคิดว่าสิ่งที่ไม่ได้ใช้ในชิวิตประจำวันคือสิ่งของฟุ่มเฟือย
สไตล์การออกแบบที่ Unique ไม่เหมือนใคร: ถ้าอยากนำสไตล์ศิลปะที่มีความงดงามและเป็นเอกลักษ์ของตัวเองมาตกแต่งบ้าน เราต้องมีความสร้างสรรค์และความมั่นใจใน Artistic Sense ของตัวเอง การออกแบบที่ทำให้ผู้อื่นที่แวะมาบ้านต้องชื่นชมและทึ่งไปกับสไตล์การตกแต่งที่สวยพิเศษ เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์และไหวพริบศิลปะของตนเองทุกคน แต่อยู่ที่ว่าเราได้ฝึกฝนใช้มันมากน้อยแค่ไหน ถ้าเราไม่ค่อยได้ฝึกเลยก็จะทำให้เราขาดความมั่นใจและไม่กล้าตัดสินใจเองว่าจะออกแบบห้องและบ้านของเราอย่างไร แต่ถ้าทำได้สำเร็จ ก็จะทำให้เรารู้สึกความภาคภูมิใจในตัวเองเพราะเราไม่ได้ลอกเลียนแบบผู้อื่น ในโลกของ Idealism เราควรที่จะตกแต่งบ้านในลักษณะและสไตล์ที่สะท้อนถึงความเป็นตัวเรา
ไม่ยึดติดกับสไตล์การตกแต่งใด: อย่างหนึ่งที่ต้องระมัดระวังคือการยึดติดก้บสไตล์แบบใดแบบหนึ่งมากเกินไป เพราะบางสไตล์อาจทำให้เราต้องใช้งบประมาณมากกว่าที่เรากำหนดไว้ และทำให้ตกแต่งบ้านตามสไตล์นั้นไม่ไหว เราไม่ควรถูกสไตล์ใดมาบังคับให้ต้องใช้สิ่งที่ไม่ทำให้เราสบายใจ อย่างเช่นถ้าเราเลือกสไตล์การตกแต่งแบบ 1950 Mid-century ซึ่งจะเน้นออกแบบด้วยสิ่งของประดิษฐ์จากนักออกแบบชื่อดัง บางทีสิ่งที่สร้างโดยดีไซเนอร์ชื่อดังอาจจะแพงกว่างบที่ตั้งไว้ แต่แล้วเราบังคับตัวเองให้ซื้อมันเพื่อยึดติดกับสไตล์ Mid-century ที่เราได้เลือกไว้ ถ้าเราอยากได้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจากดีไซน์เนอร์ผู้นั้นก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเราไม่ได้ชอบบางสิ่งที่เขาออกแบบมา เราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อสิ่งนั้นก็ได้ เรามีสิทธิเลือกสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสไตล์การตกแต่งบ้านที่เราเลือก สมมุติว่าเราได้ตัดสินใจแล้วว่าอยากออกแบบบ้านด้วยสไตล์ Minimalist แต่เราอยากใช้ผ้าม่านโปร่งมาเสริมความนุ่มนวลให้รูปหน้าต่างห้อง เราก็สามารถเลือกใช้ผ้าม่านโปร่งมาเสริมอีกชั้นของผ้าม่านได้ ซึ่งอาจไม่ทำตาม Minimalist แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะความสุขเราต้องมาเหนือสไตล์
การยึดติดกับสไตล์ใดสไตล์หนึ่งไม่ใช้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การตกแต่งบ้านที่ดูสบายตาและน่าอยู่สำหรับเราจะต้องสำคัญกว่า เราควรที่จะเลือกตกแต่งบ้านที่มอบความสุขให้กับตัวเรามากที่สุด
Read More »