ผ้าม่านเมตร ผ้าม่านหลา คำนวณ

วิธีคำนวณผ้าม่านระหว่างเมตรและหลา

วิธีคำนวณผ้าม่านระหว่างเมตรและหลา
เวลาเดินร้านผ้าม่านซื้อผ้าม่านไปตัดเย็บเอง ทางร้านขายผ้าม่านจะตัดผ้าให้เราตามจำนวณเมตรที่เราสั่ง ร้านผ้าม่านบางแห่งอาจจะขายผ้าตัดเย็บม่านเป็นหน่วยหลา บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างระหว่างหน่วยความยาวตามระบบเมตรและหน่วยความยาวตามระบบหลา

ผ้าเมตร: ความยาวผ้าหนึ่งเมตรเท่ากับ 100 เซนติเมตร  (1 เมตร = 100 เซนติเมตร)
ผ้าหลา: ความยาวผ้าหนึ่งเมตรเท่ากับ 91.44  เซนติเมตร (1 เมตร = 91.44 เซนติเมตร)
ผ้าหลาเป็นผ้าเมตร: ดังนั้นถ้าคิดง่ายๆ ผ้าหนึ่งหลาก็เท่ากับ ผ้า 0.9144 เมตร (1 เมตร = 0.9144 เมตร)

มือถือ (เครื่องคิดเลขของคนสมัยใหม่): ถ้าเรารู้จำนวนผ้าที่ต้องการเป็นเมตร เราสามารถเปลี่ยนเป็นจำนวนเมตรเป็นหน่วยหลาได้ง่ายๆ สมัยนี้คนเราไปไหนมาไหนก็พกมือถือ เราสามารถนำมือถือมาใช้เป็นเครื่องคิดเลขได้ ทำให้คำนวณผ้าง่าย

การคำนวณผ้าจากหลาเป็นเมตร:

1 หลา = 0.9144 เมตร (91.44 เซนติเมตร)

ส่วนใหญ่ร้านผ้าม่านจะขอให้เราซื้อผ้าในจำนวนขั้นต่ำ 1 เมตร แต่ความแตกต่างระหว่าง 1 เมตร ก้บ 1 หลา นั้นน้อยมาก (ไม่ถึง 10 เซนติเมตร)

2 หลา = (0.9144 เมตร x 2) = 1.83 เมตร
3 หลา = (0.9144 เมตร x 3) = 2.74 เมตร
4 หลา = (0.9144 เมตร x 4) = 3.66 เมตร  เป็นต้น

ความแตกต่างระหว่างจำนวนเมตรและหลาจะยิ่งมากเวลาต้องใช้ผ้าจำนวนมาก ถ้าซื้อผ้าม่าน 100 หลา ให้คำนวณจำนวนหลาเป็นเมตรก็จะเหลือแค่ 91.44 เมตร (ความแตกต่างเกือบ 10 หลา)

บางทีเราอาจได้คำนวณผ้าม่านมาเป็นเมตร แต่ทางร้านผ้าม่านขายผ้าเป็นหลา เราก็สามารถเปลี่ยนจำนวนผ้าจากเมตรเป็นหลาได้ไม่ยาก

1 เมตร = 1.1 หลา
2 เมตร = (1.1 หลา x 2) = 2.2 หลา
3 เมตร = (1.1 หลา x 3) = 3.3 หลา
4 เมตร = (1.1 หลา x 4) = 4.4 หลา เป็นต้น

การคำนวณตารางเมตรเป็นตารางหลาก็ง่าย

1 ตารางเมตร = 1 เมตร x 1 เมตร
= 1.1 หลา x 1.1 หลา = 1.21 ตารางหลา (1 เมตร = 1.1 หลา)

2 ตารางเมตร = 2 เมตร x 1 เมตร
= 2.2 หลา x 1.1 หลา = 2.42 ตารางหลา (1 เมตร = 1.1 หลา)

3 ตารางเมตร = 3 เมตร x 1 เมตร
= 3.3 หลา x 1.1 หลา = 3.63 ตารางหลา (1 เมตร = 1.1 หลา)

4 ตารางเมตร = 4 เมตร x 1 เมตร
= 4.4 หลา x 1.1 หลา = 4.84 ตารางหลา (1 เมตร = 1.1 หลา)  เป็นต้น

เราสามารถนำตัวเลข 1.21 ตารางหลาไปคูณจำนวนตารางเมตรได้เลยเพื่อความเร็ว

1 ตารางเมตร = 1.21 ตารางหลา
2 ตารางเมตร = 1.21 ตารางหลา x 2 = 2.42 ตารางหลา
3 ตารางเมตร = 1.21 ตารางหลา x 3 = 3.63 ตารางหลา
4 ตารางเมตร = 1.21 ตารางหลา x 4 = 4.84 ตารางหลา เป็นต้น

การจะคำนวณผ้าม่านจากตารางหลาเป็นตารางเมตรก็ไม่ยาก

1 ตารางหลา = 1 หลา x 1 หลา
= 0.9144 เมตร  x 0.9144 เมตร = 0.836 ตารางเมตร (1 หลา = 0.9144 เมตร)

2 ตารางหลา = 2 หลา x 1 หลา
= 1.83 เมตร  x 0.9144 เมตร = 1.67 ตารางเมตร (1 หลา = 0.9144 เมตร)

3 ตารางหลา = 3 หลา x 1 หลา
= 2.74 เมตร  x 0.9144 เมตร = 2.51 ตารางเมตร (1 หลา = 0.9144 เมตร)

4 ตารางหลา = 4 หลา x 1 หลา
= 3.66 เมตร  x 0.9144 เมตร = 3.34 ตารางเมตร (1 หลา = 0.9144 เมตร) เป็นต้น

เราสามารถนำตัวเลข 0.836 ตารางเมตรไปคูณจำนวนตารางหลาได้เลยเพื่อความรวดเร็ว

1 ตารางหลา = 0.836 ตารางเมตร
2 ตารางหลา = 0.836 ตารางเมตร x 2 = 1.67 ตารางหลา
3 ตารางหลา = 0.836 ตารางเมตร x 3 = 2.51 ตารางหลา
4 ตารางหลา = 0.836 ตารางเมตร x 4 = 3.34 ตารางหลา เป็นต้น

จากสูตรข้างต้น เราสามารถเปลี่ยนจำนวนผ้าม่านจากเมตรเป็นหลาได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับเปลี่ยนจำนวนหลาเป็นเมตร ถ้าเราไม่ได้พกมือถือก็ไม่เป็นไร เพราะร้านผ้าม่านจะมีเครื่องคิดเลขให้คำนวณผ้าอยู่แล้ว ที่สำคัญคือต้องซื้อในจำนวนที่ถูกต้อง เวลาซื้อผ้าม่านในจำนวนน้อยอาจไม่มีความแตกต่างมากนัก แต่เวลาซื้อผ้าม่านในจำนวนมาก จำนวนหน่วยหลากับเมตรก็จะต่างกันมากอย่างที่เราได้เห็นกัน

ร้านผ้าม่าน ATM Decor จำหน่ายส่งและปลีกผ้าสำหรับตัดผ้าม่าน มีลายใหม่ๆ สวยๆ ให้เลือกมากมาย ขายผ้าราคาต่อหน่วยเมตร คุณภาพเกรด A ราคาโรงงาน หน้าร้านผ้าม่านเราอยู่ติดถนนพาหุรัด เป็นโชว์รูมให้ลูกค้าได้ชมสินค้าผ้าและเห็นผ้าทำม่านเป็นม้วนๆ มีแบบอย่างผ้าม่านให้ชมมากมาย เราเป็นผู้นำเข้าเอง ขายส่งและปลีกทั่วประเทศ

เรามีบริการตัดเย็บติดตั้งผ้าม่านให้ครบวงจร ราคาถูก คุณภาพดี

ติดต่อสอบถามราคาได้ที่ 02-223 4828 บริษัทขายผ้าม่าน แฟบริค พลัส

Read More »
ร้านขายผ้าทำม่านและมีบริการตัดเย็บผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์

ผ้าทำม่านชนิดแคนวาส

หลายท่านอาจถามว่าผ้าแคนวาสที่เป็นผ้าคอตตอน 100% นำมาใช้เป็นผ้าม่านได้หรือเปล่า เพราะเป็นผ้าที่เนื้อหนา ทน แต่ไม่พลิ้วเหมือนผ้าซาติน ผ้าไหม หรือผ้าแจ็คการ์ด แม้จะมีผิวผ้าที่ไม่พลิ้ว แต่ผ้าเนื้อแคนวาสใช้ทำผ้าม่านได้เกือบทุกแบบ เช่นผ้าม่านจีบ ผ้าม่านตาไก่ ผ้าม่านคอกระเช้า ผ้าม่านพับ หรือแม้กระทั้งผ้าม่านหลุยส์ก็สามารถทำได้ ผ้าแคนวาสอาจจะมีเนื้อผ้าที่แข็งแต่ก็รีดจีบได้ ผ้าทำม่านชนิดแคนวาสอาจจะหนากว่าผ้าทำม่านทั่วไปแต่ก็เจาะตาไก่และเย็บเป็นผ้าม่านตาไก่ได้อย่างสวยหรู ผ้าคอตตอนแคนวาสเป็นผ้าที่ใช้ได้กับหลายอย่าง เช่นผ้าบุโซฟา ผ้าปูโต๊ะ ผ้าคลุมเตียง ผ้าหุ้มเก้าอี้ แม้ทำกระเป๋าหรือกางเกงก็ทำได้ เพราะฉะนั้นการนำผ้าทำม่านชนิดแคนวาสมาทำเป็นผ้าม่านไม่ใช่เรื่องแปลก ผ้าแคนวาสที่นิยมทำผ้าม่านจะเป็นผ้าที่มีลายดอกไม้วินเทจซึ่งจะมีสีที่สดกว่าผ้าม่านชนิดอื่นๆ บ้านหลายหลังมักทำผ้าม่านและผ้าหุ้มเบาะเป็นเซตเดียวกันครับ (การตกแต่งที่เป็นสไตล์โมเดิร์นจะนิยมใช้ผ้าทำม่านกับผ้าตกแต่งเฟอร์นิเจอร์เดียวกัน) ดังนั้นผ้าแคนวาสจึงเป็นที่นิยมอย่างมากเพราะเป็นผ้าที่ใช้ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์บ้านได้เกือบทุกชิ้น

Read More »

การเลือกผ้าม่านและรางม่าน

ติดตั้งผ้าม่าน

การติดตั้งผ้าม่านเป็นอะไรที่ไม่ยากหากเรารู้ว่าต้องการติดตั้งผ้าม่านแบบไหน ใช้รางผ้าม่านแบบไหน แล้วต้องตัดสินใจว่าผ้าสีไหนจะเข้ากับบ้าน อยากได้ผ้าม่านแบบกันแสงUVหรือว่าอยากได้ผ้าม่านแบบธรรมดาไม่จำเป็นต้องเป็นผ้าUV บางห้องมีแดดร้อนต้องการผ้ากันUVเสริมด้านหลัง บางห้องต้องการผ้าโปร่งเพื่อที่จะให้แสงเข้ามาบ้างแต่ไม่ต้องการให้คนมองเข้ามาได้ การเลือกผ้าโปร่งก็ต้องคิดอีกว่าอยากได้ผ้าโปร่งไม่มีลายเป็นสีพื้นหรืออยากได้ผ้าโปร่งแบบมีลวดลายอย่างเช่น ลายปัก ลายฉลุ ฯลฯ

ผ้าม่านที่เลือกก็มีหลายแบบ อยากได้ผ้าม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร หรืออยากได้ผ้าม่านแบบหน้ากว้าง 1.50 เมตร ผ้าม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร ก็จะไม่มีรอยต่อ ผ้าม่านแบบ 1.50 เมตร ต้องมีรอยต่อเวลาตัดเย็บกับหน้าต่างประตูบานใหญ่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มของผ้าม่านจีบ ผ้าม่านคอกระเช้า ผ้าม่านตาไก่ เป็นต้น ถ้าเราเลือกใช้เป็นผ้าม่านพับจะไม่มีรอยต่อเพราะเป็นแบบที่ใช้กับหน้าต่างที่ไม่กว้าง ถ้าตัดเย็บม่านพับโดยการต่อผ้าจะทำให้เห็นรอยต่อได้ชัด ในกลุ่มของผ้าม่านจีบ ม่านตาไก่ และ ม่านคอกระเช้า ช่างผ้าม่านที่ดีจะซ้อนรอยต่อไว้ข้างหลังลอนเพื่อไม่ให้เห็นรอยต่อ ม่านจีบจะออกแนวคลาสสิคใช้ได้กับบ้านหลายๆคอนเซ็ปต์ส่วน ผ้าม่านตาไก่เป็นผ้าม่านที่ใช้กับบ้านแนวโมเดิร์น ส่วนม่านพับจะใช้ได้ทั้งกับทั้งสองสไตล์เลย

การเลือกผ้าทำม่านก็สำคัญเพราะถ้าเลือกผ้าฝ้ายทำม่านก็จะได้ความสวยของสีพิมพ์ ผ้าฝ้ายเป็นผ้าที่ไม่ร้อนแต่จับฝุ่นง่ายและอาจทำให้ต้องซักผ้าม่านบ่อย ส่วนใหญ่ผ้าทำม่านเนื้อซาตินเจ็คการ์ด จะไม่ยับง่าย เป็นเนื้อผ้าที่ทิ้งตัวดีและไม่จับฝุ่นง่าย

การติดตั้งผ้าม่านต้องคำนึงถึงรางผ้าม่านด้วยครับว่าอยากใช้รางโชว์ รางเชือก หรือ รางไมโคร์เพราะรางแต่ละแบบก็มีจุดแข็งต่างกัน รางเชือกจะใช้ระบบดึงเชือกในการเปิดปิดผ้าม่าน เวลาเปิดปิดม่าน ผ้าม่านจะเปิดปิดทั้งสองข้าง เราไม่สามารถเปิดปิดม่านข้างเดียวได้ ข้อเสียของรางเชือกคืออายุการใช้งาน เมื่อใช้ไปหลายๆปี ตัวเชือกจะเริ่มเสื่อมและอาจทำให้เปิดปิดหน้าต่างขัดๆไม่ลื่นเหมือนตอนแรก

การติดตั้งผ้าม่านโดยรางไมโครเป็นคำตอบสำหรับข้อนี้ ในการเลือกใช้รางไมโคร เราอยากเปิดม่านข้างเดียวก็ได้ หรืออยากเปิดผ้าม่านทั้งสองข้างก็ได้ ระบบรางไมโครไม่ได้ใช้เชือกแต่ใช้ด้ามจูงแทน (หรือเราอยากใช้มือเลยก็ได้) การใช้ด้ามจูงเปิดปิดผ้าม่านจะดีตรงที่ใช้ง่ายและอุปกรณ์ไม่เสื่อมเร็ว ใช้งานได้หลายปี ผ้าม่านก็จะไม่เลอะเพราะเราไม่ต้องจับผ้าม่าน ด้ามจูงสวยๆก็มีให้เลือกมากมาย มีแบบสีขาว สีไม้โอ๊ก สีไม้สัก สีใส เป็นต้น

การติดตั้งผ้าม่านด้วยรางโชว์ก็เป็นที่นิยมกันอย่างมาก รางชนิดนี้ได้ชื่อจากเหตุผลที่ว่ารางชนิดนี้เป็นชนิดที่เราสามารถมองเห็นรางในขณะแขวนผ้าม่าน ถ้าเราเลือกใช้รางไมโครหรือรางเชือก เราจะมองไม่เห็นราง(ยกเว้นถ้าไปดูด้านหลังผ้าม่าน) รางโชว์จะมีหน้าตาที่ดูสวยหรู เพราะเป็นส่วนประกอบหน้าตาของผ้าม่านที่เด่น ไม่เหมือนรางอื่นๆ รางโชว์จะมีหลายสีให้เลือก เราควรที่จะเลือกสีของรางที่เข้ากับสีของผ้าม่านหรือถ้าใช้คอนเซ็ปต์การตัดสี (contrast) ควรที่จะตัดกับสีผ้าม่านโดยให้ทั้งสองสีดูสวยเด่น รางโชว์จะมีหัวรางหลายแบบให้เลือก มีแบบหัวรางหลากหลายมากมาย มีแบบทั้งหรูอลังการและแบบเล็กๆเรียบๆ การเลือกสีรางผ้าม่านไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียวกันกับหัวรางนะครับ อยากได้เป็นรางม่านสีไม้สักและหัวรางเป็นสีทองก็ดูสวย ส่วยใหญ่เท่าที่ดู หัวสีทองหรือเงินเข้ากับรางทุกสีเลยครับ

Read More »