ผ้าตัดเย็บม่าน ซักผ้าม่าน

เคล็ดลับในการดูแลรักษาผ้าม่าน

การดูแลรักษาผ้าม่านให้ดูสวยสะอาดและยืดอายุการใช้งาน ต้องทำอย่างไร?
ผ้าม่านเป็นสิ่งที่เราใช้ทุกวัน ใช้กันแสงแดดเข้ามาในบ้าน ปรับแสงในบ้าน ใช้กั้นแอร์รักษาความเย็นในห้อง ใช้เพิ่มความส่วนตัวเวลาอยู่บ้าน เป็นต้น ผ้าม่านเป็นสิ่งที่ถ้าเกาะฝุ่นแล้วจะเลอะง่ายเพราะทำด้วยผ้า ยิ่งผ้าม่านที่มีสีอ่อนจะสังเกตุเห็นรอยคราบได้ง่ายกว่าผ้าม่านสีเข้ม การทำความสะอาดผ้าม่านเป็นสิ่งที่เราควรทำเป็นเวลาประจำ ไม่ควรทิ้งระยะเวลาไว้นานมาก เพราะฝุ่นและคราบที่ติดอยู่บนพื้นผิวผ้าจะออกยาก และจะทำให้การทำความสะอาดยากมากขึ้น ถ้าเราซักผ้าม่านเองเป็น เราก็จะได้ประหยัดทั้งเงินและเวลาในการหาช่างผู้ชำนาญมาซักผ้าม่านบ้านเรา ดังนั้นการรู้วิธีดูแลรักษาผ้าม่านอย่างถูกต้องจะมีประโยชน์ต่อเราอย่างมาก
ต่อให้เราไม่จับผ้าม่านเลยในชีวิตประจำวัน ผ้าม่านก็ยังหลีกเลี่ยงฝุ่นละอองต่างๆไม่ได้ เพราะฝุ่นเหล่านี้เป็นสิ่งที่ลอยอยู่ในอากาศ และจะค่อยๆสะสมทุกวันบนพื้นผิวผ้าม่านที่แขวนอยู่บนราง เวลาใช้ผ้าม่านนานๆ ฝุ่นที่สะสมบนผ้าม่านอาจทำให้ผ้าเสื่อมและชำรุดง่ายในเวลาทำความสะอาด ผ้าม่านที่สกปรกก็ทำให้คุณภาพของอากาศที่เราหายใจลดลงไปด้วย อากาศจะไม่สดชื่นบริสุทธิ์เหมือนกับเวลามีผ้าม่านที่สะอาด
ถ้าเรารู้วิธีทำความสะอาดผ้าม่านโดยที่ไม่ต้องถอดผ้าม่านออกมาซัก ก็จะทำให้การทำความสะอาดผ้าม่านเป็นเรื่องที่ง่าย สะดวก และทันใจ โดยที่ไม่ต้องปวดหัวเรื่องซักผ้าม่านอีกต่อไป

เคล็บลับง่ายๆในการทำความสะอาดผ้าม่านโดยที่ไม่ต้องถอดผ้าม่านออกมาจากราง

ถ้าเรามีอุปกรณ์พร้อม เราสามารถดูแลทำความสะอาดผ้าม่านโดยที่ไม่จำเป็นต้องถอดผ้าม่านลงมาซักเลย ซึ่งทำให้การทำความสะอาดผ้าม่านเป็นเรื่องที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว

ถ้าผ้าม่านมีปัญหาแค่เรื่องเกาะฝุ่นอย่างเดียว การมีเครื่องดูดฝุ่นก็สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้เลย การทำความสะอาดผ้าม่านด้วยเครื่องดูดฝุ่นทำให้ฝุ่นไม่สะสมบนพื้นผิวผ้าม่านและทำให้ไม่จำเป็นต้องซักบ่อย ผ้าม่านที่ติดประตูหรือหน้าต่างที่เราใช้เปิดปิดบ่อยมักจะโดนลมเป็นประจำ ดังนั้นเราต้องดูดฝุ่นผ้าม่านเหล่านี้บ่อยกว่าผ้าม่านหน้าต่างที่ไม่ค่อยเปิดปิด ถ้ายังมีฝุ่นค้างอยู่บนผ้าม่านหลังทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่นแล้ว เราสามารถใช้แปรงขนนุ่มมาปัดผ้าม่านให้ฝุ่นที่เหลือออกให้หมดได้ โดยที่เน้นไปที่รอยพับผ้าม่าน ซึ่งจะเก็บฝุ่นมากกว่าจุดอื่นๆ
ถ้าผ้าม่านมีรอยคราบ การใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแปรงปัดฝุ่นจะไม่พอ แต่เราก็ยังไม่จำเป็นต้องรีบซักผ้าม่าน เพราะสามารถขจัดรอยเหล่านี้ได้ด้วยการพ่นไอน้ำ ในการพ่นไอน้ำเราควรระวังไม่ให้ผ้าม่านเกินชำรุดหรือเสียหายได้ การพ่นไอน้ำทำความสะอาดผ้าม่านเป็นสิ่งที่ใช้ง่ายและสะดวก (ผ้าทำม่านบางชนิดไม่ควรทำความสะอาดด้วยไอน้ำ เราควรที่จะเช็คก่อนว่าผ้าม่านที่เราเลือกใช้สามารถทำความสะอาดด้วยไอน้ำได้หรือเปล่า)

ผ้าม่านส่วนใหญ่มักจะสกปรกเปื้อนง่ายที่สุดในเวลาทำความสะอาดหน้าต่าง ดังนั้นในการทำความสะอาดหน้าต่างนั้น เราควรที่จะระมัดระวังไม่ให้ฉีดน้ำยาลงไปโดนผ้าม่าน

อีกอย่างที่ควรทำคือการให้ผ้าม่านได้ร้บอากาศบริสุทธิ์เป็นประจำ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผ้าม่านมีกลิ่นอับ และไม่ให้เกิดเชื้อราบนผิวผ้า

ถ้าเรายังเลือกที่จะซักผ้าม่าน การซักผ้าม่านปกติจะมีขั้นตอนตามนี้ (สำหรับผ้าม่านชนิดทั่วไปเท่านั้น เราควรเช็คดูก่อนว่าผ้าม่านที่เราใช้ซักแบบปกติได้หรือไม่)

ในการซักผ้าม่าน เราต้องถอดผ้าม่านออกจากรางก่อนเป็นลำดับแรก หลังต้องถอดผ้าม่านออกจากรางม่านแล้ว ให้จำว่าผ้าม่านผืนไหนเป็นของหน้าต่างบานไหน และด้านไหนของผ้าม่านเป็นด้านที่ถูกต้อง เพราะอาจจะทำให้สับสนได้เวลาแขวนผ้าม่านกลับขึ้นราง ยิ่งถ้าเราเลือกใช้ผ้าม่านที่ทำด้วยผ้าชนิดสวยสองหน้า จะยิ่งสับสนง่าย ดังนั้นการดูรายละเอียดดีๆก่อนถอดผ้าม่านจะทำให้ปัญหาเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้น (เวลาสั่งตัดเย็บผ้าม่านกับร้านผ้าม่านเอทีเอ็ม เดคอร์ เราจะติดป้ายเล็กๆไว้ด้านหลังผ้าม่านเพื่อเป็นการระบุขนาดผ้าม่าน ป้ายนี้จะทำให้ไม่เกิดความสับสนเวลาแขวนผ้าม่านขึ้นราง)

เราควรที่จะซักผ้าม่านทีละผืน เพราะผ้าม่านเป็นชิ้นที่ใหญ่และหนักกว่าเสื้อผ้า และอาจจะทำให้การซักผ้าม่านทุกชุดพร้อมกันใช้เวลาทั้งวัน

การซักผ้าม่านด้วยมือจะถนอมผ้ามากกว่าซักผ้าม่านด้วยเครื่อง แต่จะเหนื่อยกว่า จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนเลือกที่จะซักผ้าม่านด้วยเครื่องซักผ้า ผ้าม่านบางชนิดลงเครื่องแล้วอาจเสียหายได้ ดังนั้นต้องดูชนิดของผ้าทำผ้าม่านด้วย ผ้าทำม่านเนื้อบางๆหรือที่มีเนื้อละเอียดอ่อน อย่างเช่นผ้าไหม ผ้าม่านลายปัก ผ้าม่านลายฉลุ ผ้าทำม่านเนื้อลินินต่างๆ อาจชำรุดได้ถ้าซักเครื่อง

ก่อนซักผ้าม่านต้องถอดอุปกรณ์ที่ติดมากับผ้าม่านออกให้หมดก่อน อย่างเช่น ตะขอแขวน ห่วงตาไก่ และโซ่ถ่วงออกก่อน บางคนเลือกที่จะไม่ถอดโซ่ออกเพราะใส่กลับลำบาก แต่ถ้าไม่ถอดโซ่อาจจะทำให้เป็นสนิมได้ หรืออาจทำให้ผ้าชำรุดเสียหาย การถอดโซ่ออกนั้นต้องเลาะออกที่ปลายล่างด้านซ้ายและขวา เราสามารถเลือกได้ที่จะไม่ใส่โซ่กลับหลังซักผ้าม่านเสร็จแล้ว โดยเฉพาะถ้าใช้ผ้าม่านที่มีน้ำหนักและทิ้งตัวดี

หลังถอดโซ่ออกแล้ว นำผ้าม่านไปแช่ในน้ำ หลังแช่น้ำอย่างน้อยสองรอบแล้ว นำผ้าม่านไปซักในเครื่องได้เลย ใช้เครื่องซักผ้าทำความสะอาดผ้าม่านเหมือนซักผ้าม่านปกติทั่วไป แต่ตั้งค่าไว้อ่อนที่สุด หลังซักผ้าม่านเสร็จแล้ว นำไปตากให้แห้ง จัดจีบผ้าม่านตามรอยเดิมเพื่อรักษารูปทรง ใช้เตารีดไอน้ำอุนภูมิต่ำรีดผ้าม่านให้รอยยับหายให้หมด แล้วก็นำไปแขวนได้เลย
เราควรทำความสะอาดรางผ้าม่านก่อนที่จะแขวนผ้าม่าน เพื่อไม่ให้ผ้าม่านสกปรกอีกรอบ เวลาแขวนผ้าม่านแล้ว ผ้าม่านของเราก็จะดูใหม่เอี่ยมและสวยสะอาดเหมือนเดิม

Read More »

การเลือกผ้าม่านและรางม่าน

ติดตั้งผ้าม่าน

การติดตั้งผ้าม่านเป็นอะไรที่ไม่ยากหากเรารู้ว่าต้องการติดตั้งผ้าม่านแบบไหน ใช้รางผ้าม่านแบบไหน แล้วต้องตัดสินใจว่าผ้าสีไหนจะเข้ากับบ้าน อยากได้ผ้าม่านแบบกันแสงUVหรือว่าอยากได้ผ้าม่านแบบธรรมดาไม่จำเป็นต้องเป็นผ้าUV บางห้องมีแดดร้อนต้องการผ้ากันUVเสริมด้านหลัง บางห้องต้องการผ้าโปร่งเพื่อที่จะให้แสงเข้ามาบ้างแต่ไม่ต้องการให้คนมองเข้ามาได้ การเลือกผ้าโปร่งก็ต้องคิดอีกว่าอยากได้ผ้าโปร่งไม่มีลายเป็นสีพื้นหรืออยากได้ผ้าโปร่งแบบมีลวดลายอย่างเช่น ลายปัก ลายฉลุ ฯลฯ

ผ้าม่านที่เลือกก็มีหลายแบบ อยากได้ผ้าม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร หรืออยากได้ผ้าม่านแบบหน้ากว้าง 1.50 เมตร ผ้าม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร ก็จะไม่มีรอยต่อ ผ้าม่านแบบ 1.50 เมตร ต้องมีรอยต่อเวลาตัดเย็บกับหน้าต่างประตูบานใหญ่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มของผ้าม่านจีบ ผ้าม่านคอกระเช้า ผ้าม่านตาไก่ เป็นต้น ถ้าเราเลือกใช้เป็นผ้าม่านพับจะไม่มีรอยต่อเพราะเป็นแบบที่ใช้กับหน้าต่างที่ไม่กว้าง ถ้าตัดเย็บม่านพับโดยการต่อผ้าจะทำให้เห็นรอยต่อได้ชัด ในกลุ่มของผ้าม่านจีบ ม่านตาไก่ และ ม่านคอกระเช้า ช่างผ้าม่านที่ดีจะซ้อนรอยต่อไว้ข้างหลังลอนเพื่อไม่ให้เห็นรอยต่อ ม่านจีบจะออกแนวคลาสสิคใช้ได้กับบ้านหลายๆคอนเซ็ปต์ส่วน ผ้าม่านตาไก่เป็นผ้าม่านที่ใช้กับบ้านแนวโมเดิร์น ส่วนม่านพับจะใช้ได้ทั้งกับทั้งสองสไตล์เลย

การเลือกผ้าทำม่านก็สำคัญเพราะถ้าเลือกผ้าฝ้ายทำม่านก็จะได้ความสวยของสีพิมพ์ ผ้าฝ้ายเป็นผ้าที่ไม่ร้อนแต่จับฝุ่นง่ายและอาจทำให้ต้องซักผ้าม่านบ่อย ส่วนใหญ่ผ้าทำม่านเนื้อซาตินเจ็คการ์ด จะไม่ยับง่าย เป็นเนื้อผ้าที่ทิ้งตัวดีและไม่จับฝุ่นง่าย

การติดตั้งผ้าม่านต้องคำนึงถึงรางผ้าม่านด้วยครับว่าอยากใช้รางโชว์ รางเชือก หรือ รางไมโคร์เพราะรางแต่ละแบบก็มีจุดแข็งต่างกัน รางเชือกจะใช้ระบบดึงเชือกในการเปิดปิดผ้าม่าน เวลาเปิดปิดม่าน ผ้าม่านจะเปิดปิดทั้งสองข้าง เราไม่สามารถเปิดปิดม่านข้างเดียวได้ ข้อเสียของรางเชือกคืออายุการใช้งาน เมื่อใช้ไปหลายๆปี ตัวเชือกจะเริ่มเสื่อมและอาจทำให้เปิดปิดหน้าต่างขัดๆไม่ลื่นเหมือนตอนแรก

การติดตั้งผ้าม่านโดยรางไมโครเป็นคำตอบสำหรับข้อนี้ ในการเลือกใช้รางไมโคร เราอยากเปิดม่านข้างเดียวก็ได้ หรืออยากเปิดผ้าม่านทั้งสองข้างก็ได้ ระบบรางไมโครไม่ได้ใช้เชือกแต่ใช้ด้ามจูงแทน (หรือเราอยากใช้มือเลยก็ได้) การใช้ด้ามจูงเปิดปิดผ้าม่านจะดีตรงที่ใช้ง่ายและอุปกรณ์ไม่เสื่อมเร็ว ใช้งานได้หลายปี ผ้าม่านก็จะไม่เลอะเพราะเราไม่ต้องจับผ้าม่าน ด้ามจูงสวยๆก็มีให้เลือกมากมาย มีแบบสีขาว สีไม้โอ๊ก สีไม้สัก สีใส เป็นต้น

การติดตั้งผ้าม่านด้วยรางโชว์ก็เป็นที่นิยมกันอย่างมาก รางชนิดนี้ได้ชื่อจากเหตุผลที่ว่ารางชนิดนี้เป็นชนิดที่เราสามารถมองเห็นรางในขณะแขวนผ้าม่าน ถ้าเราเลือกใช้รางไมโครหรือรางเชือก เราจะมองไม่เห็นราง(ยกเว้นถ้าไปดูด้านหลังผ้าม่าน) รางโชว์จะมีหน้าตาที่ดูสวยหรู เพราะเป็นส่วนประกอบหน้าตาของผ้าม่านที่เด่น ไม่เหมือนรางอื่นๆ รางโชว์จะมีหลายสีให้เลือก เราควรที่จะเลือกสีของรางที่เข้ากับสีของผ้าม่านหรือถ้าใช้คอนเซ็ปต์การตัดสี (contrast) ควรที่จะตัดกับสีผ้าม่านโดยให้ทั้งสองสีดูสวยเด่น รางโชว์จะมีหัวรางหลายแบบให้เลือก มีแบบหัวรางหลากหลายมากมาย มีแบบทั้งหรูอลังการและแบบเล็กๆเรียบๆ การเลือกสีรางผ้าม่านไม่จำเป็นต้องเป็นสีเดียวกันกับหัวรางนะครับ อยากได้เป็นรางม่านสีไม้สักและหัวรางเป็นสีทองก็ดูสวย ส่วยใหญ่เท่าที่ดู หัวสีทองหรือเงินเข้ากับรางทุกสีเลยครับ

Read More »