ผ้าตัดเย็บม่านโปร่ง สวย

ผ้าม่านโปร่ง เคล็ดลับที่เพิ่มความนุ่มนวลให้กับหน้าตาบ้าน

ผ้าม่านโปร่ง เคล็ดลับที่เพิ่มความนุ่มนวลให้กับหน้าตาบ้าน
เคล็ดลับของการเพิ่มความนุ่มนวล “Graceful & Delicate” ให้กับหน้าตาบ้าน ก็คือการติดผ้าม่านโปร่งนั้นเอง การติดตั้งผ้าม่านโปร่งสามารถช่วยให้บ้านเราดูสวยงามนุ่มนวลยิ่งขึ้นอย่างไรบ้าง?

ผ้าม่านโปร่ง ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว: ผ้าม่านโปร่งเป็นที่นิยมในประเทศบ้านเราเมืองไทยเป็นประเทศร้อนและมีแสงแดดที่ร้อนแรง ซึ่งถ้าใช้ผ้าม่านบางๆ ก็จะกันแสงได้ไม่มืดพอ แต่โดยทั่วไปแล้ว การติดผ้าม่านโปร่งเป็นเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวเวลาเปิดปิดผ้าม่าน การได้มองออกไปนอกบ้านและชมวิวเป็นสิ่งที่สามารถนำความสุขและความสดชื่นให้กับเราได้ บางครั้งเราอยากจะเปิดผ้าม่านเพื่อชมวิวนอกบ้าน การมีผ้าม่านโปร่งทำให้เรามองออกหน้าต่างและชมวิวได้โดยที่ผู้อื่นที่อยู่ข้างนอกไม่สามารถมองเข้ามาในบ้านได้

ถ้าบ้านเราเปิดผ้าม่านแล้วแสงแดงจ้าและร้อนเกินไป หรือปิดผ้าม่านแล้วบ้านจะมืดไป ผ้าม่านโปร่งเป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ได้ที่สุด: บางทีเราอาจติดตั้งผ้าม่านแบล็คเอาท์ในบ้านและทำให้ห้องในบ้านดูมืดตลอดเวลา ผ้าม่านโปร่งสามารถช่วยปรับแสงในห้อง ทำให้บ้านดูสว่างสดใสได้โดยที่ไม่ต้องเปลืองไฟ เพราะไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน เราสามารถใช้ผ้าม่านโปร่งเป็นชั้นกรองแสงแดดที่เข้ามาให้บ้านให้บ้านดูสว่างปลอดโปร่ง ถ้าไม่มีผ้าม่านโปร่ง การเปิดผ้าม่านจะไม่สามารถกรองแสงแดดได้เลย และทำให้บ้านอาจสว่างจ้าเกินไปในเวลากลางวัน แสงแดดที่เข้ามาในบ้านแรงๆ จะทำให้การดำเนินใช้ชีวิตอยู่ในบ้านไม่ค่อยสะดวกสบาย อย่างเช่นเวลาอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ เล่นคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ถ้ามีแสงแดดจ้าๆ เข้ามาทางหน้าต่างก็จะทำให้ห้องในบ้านร้อนและแสงแดด (Sun Glare) ก็เข้าตาได้ ซึ่งทำให้การทำกิจกรรมภายในบ้านต่างๆ นี้ ไม่ค่อยสะดวกสบาย

ผ้าม่านโปร่ง นานาชนิด: ผ้าโปร่งสำหรับทำผ้าม่านมีหลายชนิด มีผ้าโปร่งสีพื้น ผ้าโปร่งลายปัก ผ้าโปร่งลายฉลุ ผ้าโปร่งลูกไม้ ผ้าโปร่งลายแฟนซีต่างๆ เป็นต้น เราสามารถตัดเย็บผ้าม่านโปร่งเป็นรูปแบบใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านโปร่งตาไก่ ผ้าม่านโปร่งจีบ ผ้าม่านโปร่งพับ ผ้าม่านโปร่งหลุยส์ ผ้าม่านโปร่งคอกระเช้า เป็นต้น และไม่จำเป็นต้องต้ดผ้าม่านโปร่งให้เหมือนผ้าม่านทึบ อย่างเช่นเราสามารถใช้ผ้าม่านโปร่งจีบในชุดเดียวกันกับผ้าม่านตาไก่ หรือใช้ผ้าม่านโปร่งจีบพร้อมกับผ้าม่านหลุยส์ เป็นต้น

ผ้าม่านโปร่งในคอนเซ็ปต์ Minimalist: ผ้าโปร่งมีทั้งแบบสีพื้นและแบบมีลวดลาย ส่วนมากจะนิยมใช้เป็นสีขาวหรือสีออฟ-ไวท์ (Off-white) ผ้าม่านโปร่งแบบมีลวดลายอาจมีลายในตัวเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นลายทาง ลายตา เป็นต้น ผ้าโปร่งสีพื้นมักจะใช้กับบ้านที่ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์โมเดิร์นและมินิมอลลิสต์ (Minimalist) ผ้าโปร่งชนิดนี้จะมีใช้เพื่อหน้าที่เดียวก็คือเพื่อป้องกันสายตาผู้อื่นที่อยู่ข้างนอกไม่ให้มองเข้า และไม่ได้ใช้เพื่อให้บ้านดูมีสีสันมีความหรูหรามากขึ้น แม้ผ้าม่านโปร่งสีพื้นในคอนเซ็ปต์ของ Minimalist อาจไม่ได้ใช้เพื่อความสวยงาม แต่การเพิ่มมิติให้กับการตกแต่งหน้าต่างก็ยังช่วยให้หน้าตาของบ้านดูนุ่มนวลมากยิ่งขึ้นและสร้างบรรยากาศ Relax สบายๆ ให้บ้านดูน่าอยู่มากขึ้น

ผ้าม่านโปร่งลายลูกไม้สำหรับบ้านที่ตกแต่งสไตล์ Vintage: ถ้าจะตกแต่งบ้านให้ดูมีสีสันร่าเริง การทำผ้าม่านสองชั้นด้วยการเสริมผ้าโปร่งจะช่วยได้อย่างมาก โดยเฉพาะการเลือกใช้ผ้าโปร่งลายปัก ผ้าโปร่งลายฉลุ หรือผ้าโปร่งลายลูกไม้ ซึ่งผ้าโปร่งเหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้กับบ้านที่ตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ (Vintage) และสไตล์คันทรี (Country) ผ้าโปร่งลายปักและผ้าโปร่งลายฉลุมักจะใช้ตกแต่งหน้าต่างประตูบ้านให้ดูมีความหรูหรายิ่งขึ้น ให้บ้านดูสวยเด่น หวานอ่อนโยน และเรียบหรูอย่างมีมิติ ผ้าโปร่งลูกไม้ก็จะทำให้บ้านดูสดชื่น มีบรรยากาศหวาน น่ารัก และเหมาะกับผู้ที่ชอบความสดชื่นของลายดอกไม้และเป็นคนรักธรรมชาติ การตกแต่งบ้านด้วยผ้าม่านโปร่งลูกไม้จะเพื่มบรรยากาศให้กับบ้านให้ดูมีชีวิตชีวา น่ารัก และโรแมนติก คนเราส่วนใหญ่มักจะชอบมอบดอกไม้ให้กับคนที่เรารัก เพราะดอกไม้กับความรักเป็นสิ่งที่ควบคู่กันตามธรรมชาติ

ผ้าม่านโปร่ง สามารถใช้ได้กับบ้านทุกในคอนเซ็ปต์และทุกสไตล์: ในภาพรวม ไม่ว่าจะออกแบบบ้านในสไตล์ไหนคอนเซ็ปต์ใดก็สามารถใช้ผ้าโปร่งมาประดับให้บ้านดูสดชื่นน่าอยู่ขึ้นได้ เราสามารถเลือกผ้าม่านโปร่งสีพื้น ซึ่งจะใช้กับบ้านที่ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์โมเดร์นและสไตล์มินิมอลลิสต์ และจะทำให้หน้าตาบ้านดูนุ่มนวล อ่อนโยน และเรียบหรูมากขึ้น ส่วนผ้าโปร่งลายปัก ลายฉลุ และลายลูกไม้ต่างๆ จะเหมาะใช้กับบ้านที่ออกแบบด้วยสไตล์วินเทจและคันทรี ผ้าโปร่งในกลุ่มนี้จะทำให้บ้านดูหวาน น่ารัก และมีบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา

ผ้าม่านโปร่ง ผลประโยชน์มากมาย: การติดตั้งผ้าม่านโปร่งในบ้านสร้างผลประโยชน์มากมาย ผ้าม่านโปร่งเป็นการเพิ่มมิติในการตกแต่งบ้านและทำให้บรรยากาศบ้านดูสวยงามอ่อนโยนยิ่งขึ้น ผ้าโปร่งสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับเราเวลาอยู่บ้าน และยังช่วยในการปรับสมดุลแสงในบ้านให้บ้านดูสว่างสดใสและไม่จ้าหรือมืดเกินไป โดยที่ไม่ต้องเปลืองค่าไฟอีกด้วย

ที่ร้านผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์ มีผ้าโปร่งสำหรับตัดผ้าม่านให้คุณเลือกมากมายหลายชนิด ในราคาถูก เรามีจำหน่ายผ้าโปร่งที่เข้าได้กับการตกแต่งบ้านทุกรูปแบบทุกสไตล์ ติดต่อสอบถามราคาและชนิดของผ้าโปร่งเราได้ที่ 02 223 4828 บริษัทผ้าม่านพาหุรัด แฟบริค พลัส

ร้านผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์ ขายส่ง/ปลีกผ้าทำผ้าม่านคุณภาพเกรด A ราคาโรงงาน ร้านอยู่ติดถนนพาหุรัด มีโชว์รูมให้ลูกค้าได้สัมผัสผ้าเป็นม้วนๆ มีแบบอย่างผ้าม่านให้ชมมากมาย เราเป็นผู้นำเข้าเอง ขายส่งทั่วประเทศ มีบริการตัดเย็บติดตั้งผ้าม่านให้แบบบริการครบวงจร ราคาถูก ผ้าม่านสวย คุณภาพดี

Read More »

ผ้าม่านเอทีเอ็ม เดคอร์ ดีอย่างไรบ้าง

ผ้าม่านเอทีเอ็ม เดคอร์ ดีอย่างไร?
หลายท่านอาจสงสัยเกี่ยวกับผ้าม่านของ เอทีเอ็ม เดคอร์ และถามว่าเป็นผ้าชนิดไหน มีข้อดีอะไรบ้าง?
ร้านเราจำหน่ายผ้าทำม่านหลายชนิด อย่างเช่น ผ้าทำม่านชนิดซาตินแจ็คการ์ดของเอทีเอ็ม เดคอร์ ทุกม้วนใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ลายลึกเข้าไปในเนื้อผ้า (texture)มีลวดลายสวยหรูในเท็กซ์เจอร์ ถักทอด้วยความประณีต ทำให้เนื้อผ้ามีลายเรียบเนียน นุ่มนวล สีสวยสด ดูหรูสง่างาม นอกจากที่มีลวดลายสวยงามในเนื้อผ้าแล้ว ผ้าของเรายังสามารถกันความร้อนแสงแดดได้ดีอีก ทำให้บ้านของคุณเย็นสบายและทำให้คุณได้ประหยัดแรงงานของเครื่องปรับอากาศ ทำให้ผ้าชนิดนี้เป็นผ้าประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง

ผ้าทำม่าน ซาติน แจ็คการ์ดของเราทำด้วยเส้นใยด้ายโพลีเอสเตอร์ซึ่งมีผิวเรียบสม่ำเสมอตลอดเส้น มีความคงทนและแข็งแรง รักษารูปทรงดี ทนทานต่อความร้อน ทนแสงแดดได้โดยที่ไม่ทำให้ผ้ายืด ยับ หรือหด สีของเส้นใยไม่จางลงง่ายๆทำให้การดูแลรักษาผ้าม่านของเราเป็นสิ่งที่ง่าย

ผ้าม่านที่มีเคลือบกันรังสี Ultraviolet (UV)ของเราเป็นผ้าที่มีเนื้อหนา มีน้ำหนัก พริ้ว ลวดลายงดงาม สีสวยสด และมีอายุการใช้งานที่นาน เพราะเป็นผ้าที่ทนทานต่อแสงแดดและความร้อนได้ดีพิเศษกว่าผ้าม่านปกติ เราจำหน่ายผ้าม่านกันรังสี UVหลายชนิด มีแบบเนื้อนุ่ม เนื้อมันวาว เนื้อแบบหนาพิเศษ เป็นต้น และมีสีและลวดลายที่หลากหลาย มีแบบทั้งพื้นเรียบไปถึงแบบมีลวดลายอลังการหรูหรา ผ้าม่านกันUVของเราหรือที่เรียกกันว่าผ้าม่าน blackoutเป็นผ้าที่มีความสวยงามทั้งสองด้าน สวยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (Double Face Beauty) เราอยากใช้ด้านไหนก็ได้เป็นด้านหลักหันเข้ามาในห้อง ใครที่อยู่นอกบ้านและมองเข้ามาทางหน้าต่างก็สามารถเห็นความสวยหรูของผ้าม่านเราได้เช่นกัน ที่ร้านเราจำหน่ายผ้าม่านกันUVที่ใช้เทคโนโลยีการทอด้วยเส้นด้ายสีดำทอแทรกระหว่างชั้นผ้า ผ้าชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เวลาเย็บผ้าม่านสำเร็จรูปไม่สามารถเห็นเส้นด้ายสีดำเพราะมีผ้า2ชั้นประกบอยู่ทั้งสองข้างคล้ายๆกับแซนด์วิช เรามีผ้ากันUVแบบชนิดที่ไม่จับฝุ่นละออง ทำให้การดูแลรักษาทำความสะอาดบ้านและห้องของคุณง่ายยิ่งขึ้น

การมีผ้าทำม่านที่มีคุณภาพดีอย่างเดียวไม่พอ การที่มีช่างตัดเย็บมาตัดผ้าม่านให้ออกมาแบบสวยหรูก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันเพราะการตัดเย็บผ้าม่านเป็นศิลปะชนิดหนึ่ง เราเน้นการจัดลวดลายของผ้าให้เหมาะสม
และเข้าที่สุดกับความสูงและจำนวนลอนของผ้าม่านทำให้ผ้าม่านตัดเย็บออกมาแล้วดูสวยนุ่มนวล นำลวดลายผ้าออกมาให้เด่นชัด ให้ม่านดูสวยไฮคลาสอย่างภูมิฐาน ช่างของเราฝีมือดี เย็บประณีต การบริการติดตั้งดี สุภาพ สะอาด บริการไว เราดูแลงานให้จนจบ
เราคือผู้เขี่ยวชาญงานผ้าม่านโดยเฉพาะ ยินดีให้คุณคำปรึกษาเสมอ จากเนื้อผ้าที่คุณต้องการไปถึงการออกแบบผ้าม่านให้เข้ากับบ้านของคุณมากที่สุด

Read More »

ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร (110 นิ้ว)

เราต้องใช้หน้ากว้างของผ้าเป็นส่วนสูงหรือส่วนกว้างของผ้าม่าน? การตัดเย็บผ้าม่านด้วยผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร (110 นิ้ว) จะคำนวณผ้าไม่เหมือนการใช้ผ้าทำม่าน หน้ากว้าง 1.50 เมตร
ผ้าม่าน 2.80 เมตร ยอดฮิต: ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร เป็นที่นิยมอย่างสูงและเป็นผ้าตัดเย็บม่านที่อินเท็รนด์สุดๆ ในเมืองไทย เหตุผลที่ผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตรเป็นยอดฮิตอาจเป็นเพราะการใช้ผ้าทำม่านชนิดนี้ทำให้การตัดเย็บสะดวก ง่าย และได้ประหยัดเวลาในการตัดเย็บ ข้อดีเบอร์หนึ่งของการเลือกใช้ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร คือผ้าม่านตัดเย็บสำเร็จจะไม่มีรอยต่อ การตัดเย็บผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตรจะต่างจากการตัดเย็บผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร เป็นอย่างมาก บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างระหว่างการใช้ผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร กับผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร ในการคำนวณและตัดผ้าม่าน

ใช้หน้ากว้างผ้าเป็นความสูงผ้าม่านสำเร็จ: ในการตัดเย็บผ้าม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร เราต้องนำหน้ากว้างของผ้ามาทำเป็นความสูงของผ้าม่าน ลวดลายของผ้ามักจะกำหนดให้เราต้องตัดเย็บแบบนี้ อย่างเช่นผ้าทำม่านที่มีเชิงลายสวยๆ เช่นลายปัก ลายฉลุ ลายลูกไม้ ลายแฟนซีดีไซน์ต่างๆ เราจะต้องตัดเย็บผ้าม่านตามความกว้างให้ชายผ้าอยู่ด้านล่าง

ส่วนใหญ่จะมีแค่เฉพาะในกรณีที่เลือกผ้าลายพื้นๆ หรือลายเรียบๆ เท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องตัดเย็บในลักษณะนี้ ในกรณีนี้ เราสามารถใช้หน้ากว้างของผ้ามาตัดตามยาวได้และต่อผ้าเอาเหมือนกับการตัดผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร ไม่ว่าจะตัดเย็บผ้าม่านในรูปแบบใด การใช้ผ้าทำม่านที่มีหน้ากว้าง 2.80  เมตรจะใช้ผ้าในจำนวนที่น้อยกว่าผ้าทำม่านหน้ากว้าง 1.50 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นผ้าที่มีหน้ากว้างแล้วในเมืองไทย 

การดูผ้าทำม่านว่าแพงหรือถูกไม่ได้อยู่ที่หน้ากว้างของผ้า แต่จะอยู่ที่เกรดและชนิดของผ้า ในการเปรียบเทียบราคาผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร กับแบบหน้ากว้างมาตรฐานนั้น เราต้องนำราคาผ้ามาหารสอง (โดยประมาณการ) เพื่อเปรียบเทียบได้อย่างถูกต้อง

อย่างเช่นผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร ที่มี ราคาเมตรละ 200 บาท จะเฉลี่ยแล้วถูกกว่าผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร ที่มีราคาเมตรละ 120 บาท เป็นต้น

วิธีเปรียบเทียบราคาให้เปลี่ยนหน่วยจากหน้ากว้าง 2.80 เมตร ให้เป็นหน้ากว้าง 1.50 เมตร ก่อน
ให้เราคำนวณดังนี้
(ราคาผ้าต่อเมตร ÷ 2.80 ) x  1.50

ในตัวอย่าง เราต้องเปลี่ยนราคาผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร (200 บาทต่อเมตร) ให้เทียบเป็นผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร
( 200 บาทต่อเมตร ÷ 2.80 ) x  1.50 = 107 บาทต่อเมตร

จากการคำนวณ เราจะเห็นได้ว่าผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร ที่มีราคา 200 บาทต่อเมตร จะมีราคาเทียบเท่ากับผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร ที่มีราคา 107 บาทต่อเมตร

การที่ผ้ามีหน้ากว้างที่ยาวมาก เราสามารถใช้หน้ากว้างของผ้าเป็นส่วนสูงของหน้าต่างได้ซึ่งจะทำให้การตัดเย็บผ้าม่านง่ายและสะดวก เพราะไม่จำเป็นต้องตัดผ้าเป็นชิ้นๆ เพื่อมาเย็บต่อกันตามยาว ส่วนใหญ่แล้วผ้าหน้ากว้างจะยาวพอสำหรับหน้าต่างประตูบ้านทั่วไปที่มีความสูงไม่ถึง 2.60 เมตร ปกติเราต้องเผื่อขนาดเหนือขอบวงกบไปอีก 10 ซม (ด้านล่างเผื่อได้ถึงพื้น จำนวนผ้าใช้เท่าเดิม) และต้องเผื่อเย็บริมอีก 10 ซม (รวมด้านบนและด้านล่าง) ดังนั้นผ้าชนิดนี้มีหน้ากว้างพอที่จะใช้เป็นความสูงผ้าม่านได้เลย เราจะต้องซื้อจำนวนผ้าตามความกว้างของหน้าต่าง หน้าต่างยิ่งกว้าง จำนวนผ้าที่ต้องใช้ยิ่งมาก แตกต่างกับความสูงหน้าต่างซึ่งจะใช้จำนวนผ้าเท่าเดิมไม่ว่าเราจะตัดเย็บผ้าม่านถึงพื้นหรือเลยใต้วงกบนิดเดียว

การคำนวณผ้าม่านในการตัดเย็บด้วยผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร จะแตกต่างจากการคำนวณผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร อย่างเช่น ถ้ามีหน้าต่างสูง 1.80 เมตร จากวงกบบนถึงวงกบล่าง และกว้าง 2.0 เมตร จากวงกบซ้ายถึงวงกบขวา เราจะต้องคำนวณจำนวนผ้าที่ต้องซื้อตามความกว้างของหน้าต่าง

วิธีคำนวณผ้าม่านที่ต้องใช้ (เป็นการคำนวณที่ให้ผ้าม่านมีลอนสวย ดูเนียน เรียบหรูอย่างมีระดับ) เราต้องบวกความกว้างไปอีก 20 ซม (0.2 ม) เพื่อเป็นการตัดเย็บม่านให้เลยวงกบซ้ายและวงกบขวาไป ข้างละ 10 ซม และนำความกว้างนี้มาคูณ 2.5  ตามสูตรนี้
สูตรคำนวณผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร
(ความกว้างหน้าต่าง + 20 ซม) x 2.5 = จำนวนผ้าม่านที่ต้องใช้

เราจะสังเกตุได้ว่า ในการตัดเย็บผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร ความสูงของหน้าต่างจะไม่ได้อยู่ในสูตรการคำนวณผ้าม่านเลย

ดังนั้นถ้ามีหน้าต่างที่มีความสูง 1.80 เมตรและกว้าง 2.0 เมตร เราต้องคำนวณผ้าม่านดังนี้
(2.0 เมตร + 0.2 เมตร) x 2.5 = 5.5 เมตร

ในกรณีที่เราอยากได้ผ้าม่านให้สูงมาถึงพื้น (ปกติผ้าม่านควรลอยเหนือพื้น 2 ซม เพื่อจะให้ผ้าไม่สกปรกเวลาเปิดปิดผ้าม่าน แต่การคำนวณไม่แตกต่างกันมาก เพราะการวางรางม่านเราสามารถวางเผื่อขึ้นไปเหนือวงกบได้)
สมมุติว่าความสูงเผื่อไปถึงพื้นเป็นความสูง 2.30 เมตร ให้เราคำนวณตามนี้
(2.0 เมตร + 0.2 เมตร) x 2.5 = 5.5 เมตร

จำนวนผ้าที่ต้องใช้เท่าเดิมเหมือนการตัดเย็บด้วยผ้าม่านสูง 1.80 เมตร

ถ้าหน้าต่างมีความกว้างที่แคบกว่าแต่มีความสูงมากกว่า เราจะใช้จำนวนผ้าม่านน้อยลง
ยกตัวอย่าง มีหน้าต่างสูง 2.5 เมตร และกว้าง 1.8 เมตร ให้เราคำนวณตามนี้
(1.8 เมตร + 0.2 เมตร) x 2.5 = 5 เมตร

จำนวนผ้าที่ต้องใช้ลดลงแม้ว่าหน้าต่างมีความสูงมากกว่า

ถ้าบ้านเรามีหน้าต่างประตูขนาดพิเศษและสูงกว่าหน้าต่างประตูบ้านทั่วไป (หน้าต่างประตูสูงกว่า 2.60 เมตร) เราต้องคำนวณผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร เหมือนกับตัดเย็บด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร ซึ่งก็คือต้องตัดผ้าม่านเป็นชิ้นๆ และต่อกันตามความกว้างหน้าต่าง/ประตู

สมมุติว่าเรามีประตูสูง 3.5 เมตร จากวบกบบนถึงพื้น และกว้าง 2.0 เมตร เราจะไม่สามารถใช้หน้ากว้างของผ้าเป็นส่วนสูงได้ เราต้องตัดผ้าเป็นชิ้นๆ มาต่อกันตามความกว้างของประตู ความกว้างต้องคูณ 2.5 เหมือนเดิม ส่วนความสูงให้บวกแค่ 10 ซม (เพราะวัดถึงพื้นแล้ว) เราต้องใช้สูตรนี้

สูตรคำนวณผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร
{(ความกว้าง + 20 ซม) x 2.5} ÷ 2.8 = จำนวนชิ้นของผ้าที่ต้องใช้เพื่อมาต่อกัน
(ความสูง + 10 ซม) = ความยาวของผ้าแต่ละชิ้น
(จำนวนชิ้น x ความยาวของผ้าแต่ละชิ้น) = จำนวนผ้าที่ต้องใช้

สำหรับประตูที่สูง 3.5 เมตร และกว้าง 2.0 เมตร ให้เราคำนวณดังนี้
{2.0 + 0.2) x 2.5} ÷ 2.8 = 1.96 ≅ 2 ชิ้น (จำนวนชิ้นต้องเป็นเลขจำนวนเต็ม ไม่มีเศษส่วน)
(3.5 + 0.1) = 3.6 ม
(2 x 3.6) = 7.2 เมตร
ในกรณีที่มีประตูในขนาดตามนี้ เราต้องใช้ผ้าทำม่านทั้งหมด 7.2 เมตร

ให้เราเปรียบเทียบจำนวนผ้าที่ต้องใช้ถ้าเลือกใช้ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 1.50 เมตร สูตรคำนวณมีดังนี้
{(ความกว้าง + 20 ซม) x 2.5} ÷ 1.5 = จำนวนชิ้นของผ้าที่ต้องใช้
(ความสูง + 10 ซม) = ความยาวของผ้าแต่ละชิ้น
(จำนวนชิ้น x ความยาวของผ้าแต่ละชิ้น) = จำนวนผ้าที่ต้องใช้

ดังนั้น ในกรณีที่มีประตูสูง 3.5 เมตร และกว้าง 2.0 เมตร ให้เราคำนวณตามนี้
{2.0 + 0.2) x 2.5} ÷ 1.5 = 3.67 ≅ 4 ชิ้น
(3.5 + 0.1) = 3.6 ม
(4 x 3.6) = 14.4 เมตร
ถ้าเราเลือกใช้ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 1.50 เมตร เราต้องใช้ผ้าทั้งหมด 14.4 เมตร

สูตรในการคำนวณผ้าม่านเหล่านี้เป็นสูตรที่ใช้ในการคำนวณผ้าม่านจีบและผ้าม่านตาไก่ ซึ่งเป็นผ้าม่านสองแบบที่นิยมใช้กันมากที่สุดในประเทศไทย

การใช้ผ้าม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตรจะทำให้เราต้องใช้ผ้าในจำนวนที่น้อยกว่าการใช้ผ้าม่านหน้ากว้าง 1.50 เมตร และช่วยให้เราได้ประหยัดเวลาในการตัดเย็บ เพราะงานตัดเย็บผ้าม่านจะง่ายขึ้น และผ้าม่านก็จะออกมาสวยมากขึ้นด้วยเพราะจะไม่มีรอยต่อในการตัดเย็บ ความจริงใช้ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 1.50 เมตร ก็ดูสวยได้เพราะช่างตัดเย็บม่านมืออาชีพสามารถตัดเย็บแบบหลบรอยต่อได้ แต่การตัดเย็บผ้าม่าน DIY ด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร จะยากกว่าผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร เพราะต้องตัดต่อผ้าทีละผืน แทนที่จะตัดตามยาวทีเดียว

ที่ร้านผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์ มีจำหน่ายผ้าตัดม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร หลายชนิด เรามีผ้าตัดม่านแบบทั้งหน้ากว้าง 2.80 เมตร และหน้ากว้าง 1.50 เมตร เรามีชนิดและลายผ้าให้เลือกมากมาย เราเป็นร้านขายส่งและขายปลีกผ้าสำหรับทำผ้าม่าน เรามีทีมช่างตัดเย็บผ้าม่านรับตัดเย็บและติดตั้งแบบบริการครบวงจร หรือลูกค้าสามารถเลือกซื้อผ้าไปอย่างเดียวเพื่อตัดเย็บผ้าม่านก็ได้ เรามีบริการตัดเย็บผ้าม่านหลายแบบ เช่นผ้าม่านจีบ ผ้าม่านคอกระเช้า ผ้าม่านตาไก่ ผ้าม่านพับ เป็นต้น

 

Read More »