ผ้าม่านเอทีเอ็ม เดคอร์ ดีอย่างไรบ้าง

ผ้าม่านเอทีเอ็ม เดคอร์ ดีอย่างไร?
หลายท่านอาจสงสัยเกี่ยวกับผ้าม่านของ เอทีเอ็ม เดคอร์ และถามว่าเป็นผ้าชนิดไหน มีข้อดีอะไรบ้าง?
ร้านเราจำหน่ายผ้าทำม่านหลายชนิด อย่างเช่น ผ้าทำม่านชนิดซาตินแจ็คการ์ดของเอทีเอ็ม เดคอร์ ทุกม้วนใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ลายลึกเข้าไปในเนื้อผ้า (texture)มีลวดลายสวยหรูในเท็กซ์เจอร์ ถักทอด้วยความประณีต ทำให้เนื้อผ้ามีลายเรียบเนียน นุ่มนวล สีสวยสด ดูหรูสง่างาม นอกจากที่มีลวดลายสวยงามในเนื้อผ้าแล้ว ผ้าของเรายังสามารถกันความร้อนแสงแดดได้ดีอีก ทำให้บ้านของคุณเย็นสบายและทำให้คุณได้ประหยัดแรงงานของเครื่องปรับอากาศ ทำให้ผ้าชนิดนี้เป็นผ้าประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง

ผ้าทำม่าน ซาติน แจ็คการ์ดของเราทำด้วยเส้นใยด้ายโพลีเอสเตอร์ซึ่งมีผิวเรียบสม่ำเสมอตลอดเส้น มีความคงทนและแข็งแรง รักษารูปทรงดี ทนทานต่อความร้อน ทนแสงแดดได้โดยที่ไม่ทำให้ผ้ายืด ยับ หรือหด สีของเส้นใยไม่จางลงง่ายๆทำให้การดูแลรักษาผ้าม่านของเราเป็นสิ่งที่ง่าย

ผ้าม่านที่มีเคลือบกันรังสี Ultraviolet (UV)ของเราเป็นผ้าที่มีเนื้อหนา มีน้ำหนัก พริ้ว ลวดลายงดงาม สีสวยสด และมีอายุการใช้งานที่นาน เพราะเป็นผ้าที่ทนทานต่อแสงแดดและความร้อนได้ดีพิเศษกว่าผ้าม่านปกติ เราจำหน่ายผ้าม่านกันรังสี UVหลายชนิด มีแบบเนื้อนุ่ม เนื้อมันวาว เนื้อแบบหนาพิเศษ เป็นต้น และมีสีและลวดลายที่หลากหลาย มีแบบทั้งพื้นเรียบไปถึงแบบมีลวดลายอลังการหรูหรา ผ้าม่านกันUVของเราหรือที่เรียกกันว่าผ้าม่าน blackoutเป็นผ้าที่มีความสวยงามทั้งสองด้าน สวยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (Double Face Beauty) เราอยากใช้ด้านไหนก็ได้เป็นด้านหลักหันเข้ามาในห้อง ใครที่อยู่นอกบ้านและมองเข้ามาทางหน้าต่างก็สามารถเห็นความสวยหรูของผ้าม่านเราได้เช่นกัน ที่ร้านเราจำหน่ายผ้าม่านกันUVที่ใช้เทคโนโลยีการทอด้วยเส้นด้ายสีดำทอแทรกระหว่างชั้นผ้า ผ้าชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เวลาเย็บผ้าม่านสำเร็จรูปไม่สามารถเห็นเส้นด้ายสีดำเพราะมีผ้า2ชั้นประกบอยู่ทั้งสองข้างคล้ายๆกับแซนด์วิช เรามีผ้ากันUVแบบชนิดที่ไม่จับฝุ่นละออง ทำให้การดูแลรักษาทำความสะอาดบ้านและห้องของคุณง่ายยิ่งขึ้น

การมีผ้าทำม่านที่มีคุณภาพดีอย่างเดียวไม่พอ การที่มีช่างตัดเย็บมาตัดผ้าม่านให้ออกมาแบบสวยหรูก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันเพราะการตัดเย็บผ้าม่านเป็นศิลปะชนิดหนึ่ง เราเน้นการจัดลวดลายของผ้าให้เหมาะสม
และเข้าที่สุดกับความสูงและจำนวนลอนของผ้าม่านทำให้ผ้าม่านตัดเย็บออกมาแล้วดูสวยนุ่มนวล นำลวดลายผ้าออกมาให้เด่นชัด ให้ม่านดูสวยไฮคลาสอย่างภูมิฐาน ช่างของเราฝีมือดี เย็บประณีต การบริการติดตั้งดี สุภาพ สะอาด บริการไว เราดูแลงานให้จนจบ
เราคือผู้เขี่ยวชาญงานผ้าม่านโดยเฉพาะ ยินดีให้คุณคำปรึกษาเสมอ จากเนื้อผ้าที่คุณต้องการไปถึงการออกแบบผ้าม่านให้เข้ากับบ้านของคุณมากที่สุด

Read More »

ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร (110 นิ้ว)

เราต้องใช้หน้ากว้างของผ้าเป็นส่วนสูงหรือส่วนกว้างของผ้าม่าน? การตัดเย็บผ้าม่านด้วยผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร (110 นิ้ว) จะคำนวณผ้าไม่เหมือนการใช้ผ้าทำม่าน หน้ากว้าง 1.50 เมตร
ผ้าม่าน 2.80 เมตร ยอดฮิต: ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร เป็นที่นิยมอย่างสูงและเป็นผ้าตัดเย็บม่านที่อินเท็รนด์สุดๆ ในเมืองไทย เหตุผลที่ผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตรเป็นยอดฮิตอาจเป็นเพราะการใช้ผ้าทำม่านชนิดนี้ทำให้การตัดเย็บสะดวก ง่าย และได้ประหยัดเวลาในการตัดเย็บ ข้อดีเบอร์หนึ่งของการเลือกใช้ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร คือผ้าม่านตัดเย็บสำเร็จจะไม่มีรอยต่อ การตัดเย็บผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตรจะต่างจากการตัดเย็บผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร เป็นอย่างมาก บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างระหว่างการใช้ผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร กับผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร ในการคำนวณและตัดผ้าม่าน

ใช้หน้ากว้างผ้าเป็นความสูงผ้าม่านสำเร็จ: ในการตัดเย็บผ้าม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร เราต้องนำหน้ากว้างของผ้ามาทำเป็นความสูงของผ้าม่าน ลวดลายของผ้ามักจะกำหนดให้เราต้องตัดเย็บแบบนี้ อย่างเช่นผ้าทำม่านที่มีเชิงลายสวยๆ เช่นลายปัก ลายฉลุ ลายลูกไม้ ลายแฟนซีดีไซน์ต่างๆ เราจะต้องตัดเย็บผ้าม่านตามความกว้างให้ชายผ้าอยู่ด้านล่าง

ส่วนใหญ่จะมีแค่เฉพาะในกรณีที่เลือกผ้าลายพื้นๆ หรือลายเรียบๆ เท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องตัดเย็บในลักษณะนี้ ในกรณีนี้ เราสามารถใช้หน้ากว้างของผ้ามาตัดตามยาวได้และต่อผ้าเอาเหมือนกับการตัดผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร ไม่ว่าจะตัดเย็บผ้าม่านในรูปแบบใด การใช้ผ้าทำม่านที่มีหน้ากว้าง 2.80  เมตรจะใช้ผ้าในจำนวนที่น้อยกว่าผ้าทำม่านหน้ากว้าง 1.50 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นผ้าที่มีหน้ากว้างแล้วในเมืองไทย 

การดูผ้าทำม่านว่าแพงหรือถูกไม่ได้อยู่ที่หน้ากว้างของผ้า แต่จะอยู่ที่เกรดและชนิดของผ้า ในการเปรียบเทียบราคาผ้าทำม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร กับแบบหน้ากว้างมาตรฐานนั้น เราต้องนำราคาผ้ามาหารสอง (โดยประมาณการ) เพื่อเปรียบเทียบได้อย่างถูกต้อง

อย่างเช่นผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร ที่มี ราคาเมตรละ 200 บาท จะเฉลี่ยแล้วถูกกว่าผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร ที่มีราคาเมตรละ 120 บาท เป็นต้น

วิธีเปรียบเทียบราคาให้เปลี่ยนหน่วยจากหน้ากว้าง 2.80 เมตร ให้เป็นหน้ากว้าง 1.50 เมตร ก่อน
ให้เราคำนวณดังนี้
(ราคาผ้าต่อเมตร ÷ 2.80 ) x  1.50

ในตัวอย่าง เราต้องเปลี่ยนราคาผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร (200 บาทต่อเมตร) ให้เทียบเป็นผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร
( 200 บาทต่อเมตร ÷ 2.80 ) x  1.50 = 107 บาทต่อเมตร

จากการคำนวณ เราจะเห็นได้ว่าผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร ที่มีราคา 200 บาทต่อเมตร จะมีราคาเทียบเท่ากับผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร ที่มีราคา 107 บาทต่อเมตร

การที่ผ้ามีหน้ากว้างที่ยาวมาก เราสามารถใช้หน้ากว้างของผ้าเป็นส่วนสูงของหน้าต่างได้ซึ่งจะทำให้การตัดเย็บผ้าม่านง่ายและสะดวก เพราะไม่จำเป็นต้องตัดผ้าเป็นชิ้นๆ เพื่อมาเย็บต่อกันตามยาว ส่วนใหญ่แล้วผ้าหน้ากว้างจะยาวพอสำหรับหน้าต่างประตูบ้านทั่วไปที่มีความสูงไม่ถึง 2.60 เมตร ปกติเราต้องเผื่อขนาดเหนือขอบวงกบไปอีก 10 ซม (ด้านล่างเผื่อได้ถึงพื้น จำนวนผ้าใช้เท่าเดิม) และต้องเผื่อเย็บริมอีก 10 ซม (รวมด้านบนและด้านล่าง) ดังนั้นผ้าชนิดนี้มีหน้ากว้างพอที่จะใช้เป็นความสูงผ้าม่านได้เลย เราจะต้องซื้อจำนวนผ้าตามความกว้างของหน้าต่าง หน้าต่างยิ่งกว้าง จำนวนผ้าที่ต้องใช้ยิ่งมาก แตกต่างกับความสูงหน้าต่างซึ่งจะใช้จำนวนผ้าเท่าเดิมไม่ว่าเราจะตัดเย็บผ้าม่านถึงพื้นหรือเลยใต้วงกบนิดเดียว

การคำนวณผ้าม่านในการตัดเย็บด้วยผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร จะแตกต่างจากการคำนวณผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร อย่างเช่น ถ้ามีหน้าต่างสูง 1.80 เมตร จากวงกบบนถึงวงกบล่าง และกว้าง 2.0 เมตร จากวงกบซ้ายถึงวงกบขวา เราจะต้องคำนวณจำนวนผ้าที่ต้องซื้อตามความกว้างของหน้าต่าง

วิธีคำนวณผ้าม่านที่ต้องใช้ (เป็นการคำนวณที่ให้ผ้าม่านมีลอนสวย ดูเนียน เรียบหรูอย่างมีระดับ) เราต้องบวกความกว้างไปอีก 20 ซม (0.2 ม) เพื่อเป็นการตัดเย็บม่านให้เลยวงกบซ้ายและวงกบขวาไป ข้างละ 10 ซม และนำความกว้างนี้มาคูณ 2.5  ตามสูตรนี้
สูตรคำนวณผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร
(ความกว้างหน้าต่าง + 20 ซม) x 2.5 = จำนวนผ้าม่านที่ต้องใช้

เราจะสังเกตุได้ว่า ในการตัดเย็บผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร ความสูงของหน้าต่างจะไม่ได้อยู่ในสูตรการคำนวณผ้าม่านเลย

ดังนั้นถ้ามีหน้าต่างที่มีความสูง 1.80 เมตรและกว้าง 2.0 เมตร เราต้องคำนวณผ้าม่านดังนี้
(2.0 เมตร + 0.2 เมตร) x 2.5 = 5.5 เมตร

ในกรณีที่เราอยากได้ผ้าม่านให้สูงมาถึงพื้น (ปกติผ้าม่านควรลอยเหนือพื้น 2 ซม เพื่อจะให้ผ้าไม่สกปรกเวลาเปิดปิดผ้าม่าน แต่การคำนวณไม่แตกต่างกันมาก เพราะการวางรางม่านเราสามารถวางเผื่อขึ้นไปเหนือวงกบได้)
สมมุติว่าความสูงเผื่อไปถึงพื้นเป็นความสูง 2.30 เมตร ให้เราคำนวณตามนี้
(2.0 เมตร + 0.2 เมตร) x 2.5 = 5.5 เมตร

จำนวนผ้าที่ต้องใช้เท่าเดิมเหมือนการตัดเย็บด้วยผ้าม่านสูง 1.80 เมตร

ถ้าหน้าต่างมีความกว้างที่แคบกว่าแต่มีความสูงมากกว่า เราจะใช้จำนวนผ้าม่านน้อยลง
ยกตัวอย่าง มีหน้าต่างสูง 2.5 เมตร และกว้าง 1.8 เมตร ให้เราคำนวณตามนี้
(1.8 เมตร + 0.2 เมตร) x 2.5 = 5 เมตร

จำนวนผ้าที่ต้องใช้ลดลงแม้ว่าหน้าต่างมีความสูงมากกว่า

ถ้าบ้านเรามีหน้าต่างประตูขนาดพิเศษและสูงกว่าหน้าต่างประตูบ้านทั่วไป (หน้าต่างประตูสูงกว่า 2.60 เมตร) เราต้องคำนวณผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร เหมือนกับตัดเย็บด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร ซึ่งก็คือต้องตัดผ้าม่านเป็นชิ้นๆ และต่อกันตามความกว้างหน้าต่าง/ประตู

สมมุติว่าเรามีประตูสูง 3.5 เมตร จากวบกบบนถึงพื้น และกว้าง 2.0 เมตร เราจะไม่สามารถใช้หน้ากว้างของผ้าเป็นส่วนสูงได้ เราต้องตัดผ้าเป็นชิ้นๆ มาต่อกันตามความกว้างของประตู ความกว้างต้องคูณ 2.5 เหมือนเดิม ส่วนความสูงให้บวกแค่ 10 ซม (เพราะวัดถึงพื้นแล้ว) เราต้องใช้สูตรนี้

สูตรคำนวณผ้าม่านด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร
{(ความกว้าง + 20 ซม) x 2.5} ÷ 2.8 = จำนวนชิ้นของผ้าที่ต้องใช้เพื่อมาต่อกัน
(ความสูง + 10 ซม) = ความยาวของผ้าแต่ละชิ้น
(จำนวนชิ้น x ความยาวของผ้าแต่ละชิ้น) = จำนวนผ้าที่ต้องใช้

สำหรับประตูที่สูง 3.5 เมตร และกว้าง 2.0 เมตร ให้เราคำนวณดังนี้
{2.0 + 0.2) x 2.5} ÷ 2.8 = 1.96 ≅ 2 ชิ้น (จำนวนชิ้นต้องเป็นเลขจำนวนเต็ม ไม่มีเศษส่วน)
(3.5 + 0.1) = 3.6 ม
(2 x 3.6) = 7.2 เมตร
ในกรณีที่มีประตูในขนาดตามนี้ เราต้องใช้ผ้าทำม่านทั้งหมด 7.2 เมตร

ให้เราเปรียบเทียบจำนวนผ้าที่ต้องใช้ถ้าเลือกใช้ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 1.50 เมตร สูตรคำนวณมีดังนี้
{(ความกว้าง + 20 ซม) x 2.5} ÷ 1.5 = จำนวนชิ้นของผ้าที่ต้องใช้
(ความสูง + 10 ซม) = ความยาวของผ้าแต่ละชิ้น
(จำนวนชิ้น x ความยาวของผ้าแต่ละชิ้น) = จำนวนผ้าที่ต้องใช้

ดังนั้น ในกรณีที่มีประตูสูง 3.5 เมตร และกว้าง 2.0 เมตร ให้เราคำนวณตามนี้
{2.0 + 0.2) x 2.5} ÷ 1.5 = 3.67 ≅ 4 ชิ้น
(3.5 + 0.1) = 3.6 ม
(4 x 3.6) = 14.4 เมตร
ถ้าเราเลือกใช้ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 1.50 เมตร เราต้องใช้ผ้าทั้งหมด 14.4 เมตร

สูตรในการคำนวณผ้าม่านเหล่านี้เป็นสูตรที่ใช้ในการคำนวณผ้าม่านจีบและผ้าม่านตาไก่ ซึ่งเป็นผ้าม่านสองแบบที่นิยมใช้กันมากที่สุดในประเทศไทย

การใช้ผ้าม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตรจะทำให้เราต้องใช้ผ้าในจำนวนที่น้อยกว่าการใช้ผ้าม่านหน้ากว้าง 1.50 เมตร และช่วยให้เราได้ประหยัดเวลาในการตัดเย็บ เพราะงานตัดเย็บผ้าม่านจะง่ายขึ้น และผ้าม่านก็จะออกมาสวยมากขึ้นด้วยเพราะจะไม่มีรอยต่อในการตัดเย็บ ความจริงใช้ผ้าทำม่านหน้ากว้าง 1.50 เมตร ก็ดูสวยได้เพราะช่างตัดเย็บม่านมืออาชีพสามารถตัดเย็บแบบหลบรอยต่อได้ แต่การตัดเย็บผ้าม่าน DIY ด้วยผ้าหน้ากว้าง 1.50 เมตร จะยากกว่าผ้าหน้ากว้าง 2.80 เมตร เพราะต้องตัดต่อผ้าทีละผืน แทนที่จะตัดตามยาวทีเดียว

ที่ร้านผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์ มีจำหน่ายผ้าตัดม่านหน้ากว้าง 2.80 เมตร หลายชนิด เรามีผ้าตัดม่านแบบทั้งหน้ากว้าง 2.80 เมตร และหน้ากว้าง 1.50 เมตร เรามีชนิดและลายผ้าให้เลือกมากมาย เราเป็นร้านขายส่งและขายปลีกผ้าสำหรับทำผ้าม่าน เรามีทีมช่างตัดเย็บผ้าม่านรับตัดเย็บและติดตั้งแบบบริการครบวงจร หรือลูกค้าสามารถเลือกซื้อผ้าไปอย่างเดียวเพื่อตัดเย็บผ้าม่านก็ได้ เรามีบริการตัดเย็บผ้าม่านหลายแบบ เช่นผ้าม่านจีบ ผ้าม่านคอกระเช้า ผ้าม่านตาไก่ ผ้าม่านพับ เป็นต้น

 

Read More »
ร้านขายผ้าทำม่านและมีบริการตัดเย็บผ้าม่าน เอทีเอ็ม เดคอร์

ผ้าม่านที่ดีช่วยทำให้เราได้มีความสุขมากยิ่งขึ้นเวลาอยู่บ้าน

บางทีเราอาจมองข้ามอิทธิพลที่ผ้าม่านมีต่อชีวิตประจำวันของเราก็ได้ ความจริงผ้าม่านสามารถสร้างผลประเยชน์ต่างๆ ให้กับเราได้นอกเหนือจากการช่วยป้องกันแสงแดดอาทิตย์

ประการแรก

ป้องกันทั้งแสงและรังสีพระอาทิตย์: นอกเหนือจากมีหน้าที่ในการกันแสงแดดแล้ว ผ้าม่านก็สามารถกันรังสี (Ultraviolet)จากแสงพระอาทิตย์ได้เช่นกัน ในการที่จะได้ผลประโยชน์ของการกันรังสี Ultraviolet (UV) นี้ เราต้องเลือกใช้ผ้าม่านแบบกัน UV ในตัว (เป็นชนิดผ้าม่านที่มีซับในกันรังสีอยู่ในเนื้อผ้า) ผ้าม่านที่มีคุณสมบัติในการกันรังสีจะมีเนื้อแน่นมากกว่าผ้าม่านอื่นๆทั่วไป มีน้ำหนักที่หนักกว่า และมีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงดีกว่าผ้าม่านปกติ นอกจากจะกันรังสีแล้ว ผ้าม่านชนิดแบบป้องกันรังสี UV ยังป้องกันความร้อนของแสงแดดได้ดีกว่าผ้าม่านทั่วไป ประเทศบ้านเรามีอากาศร้อน แสงแดดแรง อากาศบ้านเราร้อนแทบทั้งปีทำให้คนต่างชาติล้อกันว่าเป็นประเทศที่มีฤดูร้อนฤดูเดียวทั้งปี ดังนั้นผ้าม่านเป็นสิ่งที่เราใช้ได้ตลอดปี

ประการที่สอง

ลดเสียงดังจากสิ่งแวดล้อมภายนอก: นอกเหนือจากผลประโยชน์ของการปกป้องจากรังสีและแสงแดดแล้ว ผ้าม่านก็ยังสามารถช่วยลดเสียงดังๆ จากนอกบ้านไม่ให้มารบกวนเราได้อีก โดยเฉพาะผ้าม่านที่มีความหนาพิเศษ เวลาเราต้องการความเงียบสงบและไม่ต้องการเสียงรบกวนจากข้างนอกบ้าน การใช้ผ้าม่านจะช่วยลดเสียงรบกวนภาพนอกได้และช่วยให้เราได้ผ่อนคลายเวลาอยู่บ้าน

เก็บรักษาอุณภูมิในบ้าน: ผ้าม่านสามารถช่วยในการรักษาอุณภูมิในบ้านด้วยการเป็น Insulator ป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกเข้ามาในบ้านและไม่ให้อากาศข้างในออกไปนอกบ้าน คนไทยชอบใช้ผ้าม่านเพื่อกันแสงแดดและความร้อนจากแสงอาทิตย์ แต่คนที่อยู่ในประเทศหนาวๆ ก็ซื้อผ้าม่านเช่นกัน เพราะต้องการกั้นไม่ให้อากาศเย็นๆ เข้ามาในบ้าน รักษาอุณิภูมิอุ่นๆ ไว้ในบ้าน คนอยู่ในประเทศหนาวมักจะเปิดเครื่องทำอากาศร้อนในบ้านเพื่อให้บ้านมีความอบอุ่น ผ้าม่านจะช่วยกั้นอากาศอบอุ่นในบ้านไม่ให้หนีออกไปนอกบ้าน ส่วนคนไทยเราเปิดแอร์ไว้ในบ้านก็ไม่อยากให้อากาศเย็นๆ จากในบ้านต้องกระจายออกนอกบ้าน การมีผ้าม่าน โดยเฉพาะผ้าม่านที่มีเนื้อหนาแน่น จะช่วยเก็บอากาศเย็นๆ ไว้ในบ้านในระยะเวลานานมากขึ้น
ผ้าม่านสั่งตัดจะช่วยรักษาอุณภูมิในบ้านง่าย: ขึ้นการใช้ผ้าม่านแบบตัดเย็บตามขนาดของหน้าต่าง (Made-to-Measure Curtains) จะช่วยยิ่งขึ้นในการรักษาอุณภูมิภายในบ้าน เพราะถ้ามีช่องว่างระหว่างผ้าม่านก้บหน้าต่างก็จะทำให้ลดประสิทธิภาพของม่านในการป้องกันไม่ให้ความเย็นหนีออก เวลาตัดเย็บผ้าม่านเราจะต้องเผื่อความกว้างและความสูงให้พอประมาณ โดยมาตรฐานแล้วผ้าม่านควรที่จะมีความกว้างอย่างน้อย 10 ซม. ซ้ายและขวาวงกบหน้าต่างและควรมีความสูงอย่างน้อย 40-50ซม. มากกว่าความสูงหน้าต่าง (เผื่อ 10 ซม. ไว้เหนือหน้าต่าง และเผื่อ 30-40 ซม ไว้ใต้หน้าต่าง) การเผื่อขนาดความสูงและความกว้างผ้าม่านจะช่วยให้ผ้าม่านกันแอร์เย็นได้นาน บ้านหลายหลังมักจะใช้ผ้าม่านที่มีความสูงเกือบถึงพื้น โดยตัดเย็บผ้าม่านแบบนี้ก็จะทำให้ผ้าม่านในบ้านดูสวยหรูมากยิ่งขึ้น และยังทำให้ห้องในบ้านดูสูงขึ้นอีกด้วย

ประการที่สาม

ช่วยรักษาความส่วนตัวและช่วยประหยัดไฟ: คนเราส่วนใหญ่ก็ต้องการ Privacy หรือความส่วนตัว การมีผ้าม่านใช้จะทำให้เราได้อยู่ในบ้านโดยที่ไม่มีใครจากข้างนอกสามารถมองเห็นเข้ามาได้ เวลาต้องการมองออกหน้าต่าง เราก็เพียงแค่เปิดผ้าม่าน แต่เวลาต้องการดู TV  อ่านหนังสือ หรือพักผ่อน เราก็สามารถปิดผ้าม่านได้โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงโลกภายนอก ถ้ามีผ้าม่านโปร่งอีกชั้นหนึ่งก็จะยิ่งทำให้เราไม่จำเป็นต้องเปิดผ้าม่านหมดด้วย เพราะเราสามารถมองทลุผ้าโปร่งออกไปนอกหน้าต่างได้ง่ายกว่าที่คนภายนอกจะสามารถมองทลุเข้ามา ผ้าม่านโปร่งจะช่วยให้เราสามารถดูโลกภายนอกได้อย่างสบายใจ และยังช่วยในการปรับแสงอาทิตย์ที่เข้ามาในบ้านได้อีก เพื่อเป็นการประหยัดไฟตอนกลางวัน ถ้าเราไม่อยากให้ห้องในบ้านดูมืดเกินไป เราก็สามารถเปิดผ้าม่านและใช้ผ้าม่านโปร่งลดแสงแดดในห้อง ในการใช้ผ้าม่านโปร่ง ห้องจะดูมีความสะหว่างอ่อนโยนยิ่งขึ้นและในขณะเดียวกันเราก็จะได้ความส่วนตัวด้วยเช่นกัน

ประการที่สี่

สีสันผ้าม่านมีอิทธิพลต่อความรู้สึกเราเป็นอย่างมาก: ผลงานการวิจัยจิตวิทยาให้เราได้เห็นกันแล้วว่าสีสันผ้าม่านมีอิทธิพลต่ออารมณ์และสภาพจิดใจของผู้อยู่อาศัยในบ้านเป็นอย่างมาก นอกจากดีไซน์และขนาดของผ้าม่านแล้ว สีโทนของผ้าที่ใช้ในการทำม่านก็มีความสำคัญอย่างมาก การวิจัยได้แสดงให้เราได้เห็นว่าสีสันมีความสำคัญต่อบุคลิกภาพและความคิดของเรา ดังนั้นการเลือกสีของผ้าม่านในการตกแต่งบ้านจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและนอกจากควรเลือกในสีที่เข้ากับบ้านของเราแล้ว ยังควรเลือกสีผ้าม่านที่ช่วยให้เรามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นเวลาเราการต้องการผ่อนคลายหรือต้องการความสนุกสนานเปร่าร่าเริง ผู้อยู่อาศัยในบ้านจะได้รับผลประโยชน์จากสีของผ้าม่านที่เราเลือกอย่างเต็มที่

Read More »